คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1885/2530

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

โจทก์ฟ้องตั้งประเด็นว่า จำเลยผิดนัดไม่ชำระค่าเช่าซื้อรถยนต์ที่เช่าซื้อไป ทำให้โจทก์เสียหาย ขอคิดค่าเสียหายเท่าค่าเช่าที่อาจนำรถไปให้ผู้อื่นเช่าได้ มิได้ขอให้จำเลยใช้ค่าเสียหายตามเงื่อนไขในสัญญาเช่าซื้อ เมื่อศาลอุทธรณ์กำหนดค่าเสียหายให้แก่โจทก์ตามที่เห็นสมควร โจทก์จะฎีกาขอให้จำเลยใช้ค่าเสียหายตามเงื่อนไขในสัญญาเช่าซื้อไม่ได้ เพราะโจทก์มิได้ยกขึ้นว่ากันมาตั้งแต่ศาลชั้นต้น

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า จำเลยที่ ๑ เช่าซื้อรถยนต์จากโจทก์ ๑ คัน ราคา ๒๓๑,๒๐๐ บาท ชำระในวันทำสัญญา ๓๐,๐๐๐ บาท ส่วนที่ค้างจำเลยสัญญาจะผ่อนชำระเป็นรายเดือน เดือนละ ๕,๐๓๐ บาท มีกำหนด ๔๐ เดือน เริ่มชำระทุกวันที่ ๑ ของเดือนตั้งแต่วันที่ ๑ กันยายน ๒๕๒๕ เป็นต้นไป จำเลยที่ ๒ ยอมเข้าเป็นผู้ค้ำประกันและจำเลยที่ ๓ เป็นผู้รับเรือน นับแต่วันทำสัญญาจำเลยที่ ๑ ชำระค่าเช่าซื้อให้โจทก์เพียง ๑๓,๐๖๐ บาท คิดค่าเช่าถึงวันที่ ๑ ตุลาคม ๒๕๒๕ เท่านั้น ต่อจากนั้นไม่ชำระอีกเลย ครั้นวันที่ ๔ พฤษภาคม ๒๕๒๖ จำเลยที่ ๑บอกเลิกสัญญาและนำรถคันที่เช่าซื้อมาคืนแก่โจทก์ ทำให้โจทก์เสียหายไม่ได้รับประโยชน์เป็นเวลา ๗ เดือนเศษ หากโจทก์นำรถยนต์คันดังกล่าวไปให้ผู้อื่นเช่าจะได้ค่าเช่าไม่น้อยกว่าวันละ ๑๘๐ บาท เดือนละ ๕,๔๐๐ บาท แต่โจทก์ขอคิดเพียงเดือนละ ๕,๐๓๐ บาท เป็นเวลา ๗ เดือน เป็นเงิน ๓๕,๒๑๐ บาท โจทก์ทวงถาม จำเลยทั้งสามก็เพิกเฉย ขอให้ศาลพิพากษาให้จำเลยทั้งสามร่วมกันใช้ค่าเสียหายพร้อมดอกเบี้ย
จำเลยที่ ๑ และที่ ๒ ขาดนัดยื่นคำให้การและขาดนัดพิจารณา
จำเลยที่ ๓ ขาดนัดยื่นคำให้การ
ศาลชั้นต้นพิจารณาแล้วพิพากษายกฟ้อง
โจทก์อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษากลับ ให้จำเลยที่ ๑ ที่ ๒ ร่วมกันชำระเงิน ๒๑,๐๐๐ บาท แก่โจทก์พร้อมดอกเบี้ยร้อยละเจ็ดครึ่งต่อปี นับแต่วันฟ้องไปจนกว่าจะชำระเสร็จ ถ้าจำเลยที่ ๑ ที่ ๒ ไม่ชำระให้จำเลยที่ ๓ ชำระแทน
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า โจทก์ฎีกาในปัญหาว่าตามสัญญาเช่าซื้อได้กำหนดไว้ในข้อ ๗ วรรคสองว่า ‘เมื่อได้บอกเลิกสัญญาเช่าซื้อแล้ว ผู้เช่าซื้อยินยอมให้ผู้ให้เช่าซื้อริบบรรดาเงินที่ได้ส่งชำระให้แก่ผู้ให้เช่าซื้อทั้งหมด และผู้เช่าซื้อมีหน้าที่จะต้องส่งมอบทรัพย์สินที่เช่าซื้อในสภาพเรียบร้อยทุกประการคืนให้แก่ผู้ให้เช่าซื้อหรือผู้แทนของผู้ให้เช่าซื้อ ณ ภูมิลำเนาของผู้ให้เช่าซื้อโดยพลัน หรือยอมให้ผู้ให้เช่าซื้อหรือผู้แทนเข้าครอบครองและยึดทรัพย์ที่เช่าซื้อนี้คืนไปจากผู้เช่าซื้อได้ทันทีพร้อมทั้งยอมชดใช้ค่าเสียหาย ค่าสินไหมทดแทน ค่าใช้ทรัพย์ที่เช่าซื้อไปในระหว่างผิดนัดชำระค่าเช่าซื้อให้แก่ผู้ให้เช่าซื้อในอัตราเดือนละ ๕,๐๓๐ บาท จนครบทุกเดือนที่ผิดนัดพร้อมทั้งดอกเบี้ย ฯลฯ’ ดังนั้นจำเลยจะต้องชำระค่าเสียหายให้โจทก์ตามเงื่อนไขในสัญญาดังกล่าวเป็นเงินเดือนละ ๕,๐๓๐ บาท
ศาลฎีกาเห็นว่า โจทก์ฟ้องโดยตั้งประเด็นว่า จำเลยที่ ๑ ผิดนัดไม่ชำระค่าเช่าซื้อรถยนต์ที่เช่าซื้อไปจากโจทก์เป็นเวลา ๗ เดือนเศษ ทำให้โจทก์เสียหาย ขอคิดค่าเสียหายเท่าค่าเช่าที่อาจนำรถไปให้ผู้อื่นเช่าได้เดือนละ ๕,๔๐๐ บาท ซึ่งโจทก์ขอคิดเพียงเดือนละ ๕,๐๓๐ บาท โดยมิได้ขอให้จำเลยใช้ค่าเสียหายตามเงื่อนไขในสัญญาเช่าซื้อข้อ ๗ ศาลอุทธรณ์จึงได้กำหนดค่าเสียหายให้แก่โจทก์ตามที่เห็นสมควร โจทก์จะฎีกาขอให้จำเลยใช้ค่าเสียหายตามเงื่อนไขในสัญญาเช่าซื้อข้อ ๗ ไม่ได้เพราะโจทก์มิได้ยกขึ้นว่ากันมาตั้งแต่ศาลชั้นต้น ศาลฎีกาไม่รับวินิจฉัย
พิพากษาให้ยกฎีกาของโจทก์

Share