คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1882/2505

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

เรือนที่จำเลยปลูกสร้างให้ชายคารุกล้ำเข้าไปในที่เช่าของโจทก์ แม้จำเลยจะสร้างขึ้นหลังจากที่โจทก์ได้เช่าที่ดินแล้วก็ตาม เมื่อแนวชายคานั้นไม่เกินระดับแนวรั้วที่รุกล้ำอยู่ก่อนที่โจทก์จะมาเช่าที่แปลงนั้นแล้ว ก็ต้องถือว่าจำเลยไม่ได้กระทำละเมิดต่อโจทก์ โจทก์ย่อมไม่มีอำนาจฟ้องจำเลยให้รื้อถอนชายคานั้นได้

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า โจทก์ได้เช่าที่ดินราชพัสดุ เนื้อที่ ๕๒ วา ใช้ปลูกบ้านอยู่จำเลยได้มีเจตนาไม่สุจริตปลูกตัวส้วม ล้อมรั้วกั้นเขตและปลูกเรือนให้ชายคายื่นเข้าในที่โจทก์เช่า ๒ หลัง ขอให้บังคับ ให้จำเลยรื้อ
จำเลยให้การปฏิเสธ
ศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำเลยจัดการไม่ให้ชายคาเรือนหลังใหม่ของจำเลยรุกล้ำเข้าไปในที่เช่าของโจทก์
โจทก์และจำเลยอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้ว่า จำเลยไม่ต้องจัดการเรื่องชายคาประการใด นอกจากที่แท้ คงให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า การที่จำเลยทำการปลูกสร้างนี้ ย่อมเป็นที่เห็นได้ว่า ส่วนใหญ่นอกจากชายคาเรือนหลังใหม่ ได้กระทำมานานประมาณ ๑๐ ปีแล้ว ตั้งแต่ครั้งโจทก์ยังไม่ได้มีสิทธิอันใดในที่เช่าของตน เพราะยังเป็นสิทธิของนายจรัญผู้เช่าเดิมอยู่ ส่วนหลังคาเรือนหลังใหม่ แม้จำเลยปลูกสร้างขึ้นภายหลังโจทก์มีสิทธิในที่เช่า ก็ปรากฏว่าแนวชายคานั้นอยู่ในอากาศไม่เกินระดับแนวรั้วที่รุกล้ำอยู่ก่อนแล้วนั่นเอง หาได้เกินเลยแนวรั้วล้ำเข้าไปในที่เช่าของโจทก์อีกไม่ การที่จำเลยรุกล้ำเขตที่เช่าจึงเป็นการละเมิดต่อสิทธิของนายจรัญผู้เช่าที่เดิม ไม่ใช่ละเมิดต่อโจทก์ แม้การละเมิดนั้นจะคงมีอยู่ต่อมาไม่ขาดสายถึงสมัยโจทก์เป็นผู้มีสิทธิในที่เช่าก็ตาม ก็ต้องถือว่าจำเลยไม่ได้กระทำละเมิดต่อโจทก์ คดีเป็นเรื่องรอนสิทธิ โจทก์ย่อมไม่มีอำนาจฟ้องจำเลยให้รื้อถอนสิ่งปลูกสร้างที่รุกล้ำนั้นได้ คำพิพากษาศาลอุทธรณ์ชอบแล้ว ฎีกาโจทก์ฟังไม่ขึ้น
พิพากษายืน ยกฎีกาโจทก์

Share