แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
เรือนที่จำเลยปลูกสร้างให้ชายคารุกล้ำเข้าไปในที่เช่าของโจทก์ แม้จำเลยจะสร้างขึ้นหลังจากที่โจทก์ได้เช่าที่ดินแล้วก็ตาม เมื่อแนวชายคานั้นไม่เกินระดับแนวรั้วที่รุกล้ำอยู่ก่อนที่โจทก์จะมาเช่าที่แปลงนั้นแล้ว ก็ต้องถือว่าจำเลยไม่ได้กระทำละเมิดต่อโจทก์ โจทก์ย่อมไม่มีอำนาจฟ้องจำเลยให้รื้อถอนชายคานั้นได้
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องว่า  โจทก์ได้เช่าที่ดินราชพัสดุ  เนื้อที่ ๕๒ วา  ใช้ปลูกบ้านอยู่จำเลยได้มีเจตนาไม่สุจริตปลูกตัวส้วม  ล้อมรั้วกั้นเขตและปลูกเรือนให้ชายคายื่นเข้าในที่โจทก์เช่า ๒ หลัง  ขอให้บังคับ  ให้จำเลยรื้อ
จำเลยให้การปฏิเสธ
ศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำเลยจัดการไม่ให้ชายคาเรือนหลังใหม่ของจำเลยรุกล้ำเข้าไปในที่เช่าของโจทก์
โจทก์และจำเลยอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้ว่า  จำเลยไม่ต้องจัดการเรื่องชายคาประการใด  นอกจากที่แท้  คงให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า  การที่จำเลยทำการปลูกสร้างนี้  ย่อมเป็นที่เห็นได้ว่า  ส่วนใหญ่นอกจากชายคาเรือนหลังใหม่  ได้กระทำมานานประมาณ ๑๐ ปีแล้ว  ตั้งแต่ครั้งโจทก์ยังไม่ได้มีสิทธิอันใดในที่เช่าของตน  เพราะยังเป็นสิทธิของนายจรัญผู้เช่าเดิมอยู่  ส่วนหลังคาเรือนหลังใหม่  แม้จำเลยปลูกสร้างขึ้นภายหลังโจทก์มีสิทธิในที่เช่า  ก็ปรากฏว่าแนวชายคานั้นอยู่ในอากาศไม่เกินระดับแนวรั้วที่รุกล้ำอยู่ก่อนแล้วนั่นเอง  หาได้เกินเลยแนวรั้วล้ำเข้าไปในที่เช่าของโจทก์อีกไม่  การที่จำเลยรุกล้ำเขตที่เช่าจึงเป็นการละเมิดต่อสิทธิของนายจรัญผู้เช่าที่เดิม  ไม่ใช่ละเมิดต่อโจทก์  แม้การละเมิดนั้นจะคงมีอยู่ต่อมาไม่ขาดสายถึงสมัยโจทก์เป็นผู้มีสิทธิในที่เช่าก็ตาม  ก็ต้องถือว่าจำเลยไม่ได้กระทำละเมิดต่อโจทก์  คดีเป็นเรื่องรอนสิทธิ  โจทก์ย่อมไม่มีอำนาจฟ้องจำเลยให้รื้อถอนสิ่งปลูกสร้างที่รุกล้ำนั้นได้  คำพิพากษาศาลอุทธรณ์ชอบแล้ว  ฎีกาโจทก์ฟังไม่ขึ้น
พิพากษายืน  ยกฎีกาโจทก์

