คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1170/2505

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ทรัพย์สินของภริยาซึ่งไม่ปรากฏว่าเป็นสินส่วนตัว ย่อมสันนิษฐานว่าเป็นสินบริคณห์สามีจึงมีส่วนเป็นเจ้าของร่วมอยู่ด้วย สามีมีสิทธิฟ้องคดีกล่าวหาว่าผู้อื่นทำให้ทรัพย์สินนั้นๆ เสียหายได้ โจทก์จึงมีอำนาจฟ้องว่าทรัพย์สินนั้นเป็นของโจทก์ และมอบอำนาจให้ภริยาโจทก์ฟ้องคดี

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า จำเลยกระทำโดยประมาท ทำให้ไฟไหม้โรงเรือนทรัพย์สินของโจทก์ตามบัญชีทรัพย์ท้ายฟ้องเสียหาย และทำให้โจทก์ขาดรายได้ ขอให้ใช้ค่าเสียหาย

จำเลยให้การว่า ไม่ได้ประมาทเลินเล่อ โจทก์ไม่ได้เสียหายตามฟ้อง ฯลฯ

ศาลชั้นต้นฟังว่าจำเลยทำให้เพลิงไหม้ทรัพย์สินของโจทก์โดยประมาท พิพากษาให้จำเลยใช้ค่าเสียหาย (น้อยกว่าที่โจทก์ขอ)

โจทก์จำเลยอุทธรณ์

ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้ให้จำเลยใช้ค่าเสียหายเพิ่มขึ้น

โจทก์จำเลยฎีกา

ในปัญหาข้อกฎหมาย ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า ที่จำเลยฎีกาว่าตามฟ้องว่าทรัพย์ที่ถูกเพลิงไหม้เป็นของโจทก์ คือ นายเจี้ยนเห้งผู้มอบอำนาจ แต่ทางพิจารณากลับได้ความว่าทรัพย์เป็นของนางล้านผู้รับมอบอำนาจ ในฟ้องไม่ได้บรรยายว่านายเจี้ยนเห้งเป็นสามีนางล้านจึงอ้างว่าโจทก์มีอำนาจจัดการทรัพย์สินของภริยาไม่ได้ โจทก์ไม่มีอำนาจฟ้องหรือมอบให้ภริยาฟ้องคดี นั้น เห็นว่า ในหนังสือมอบอำนาจท้ายฟ้องก็ปรากฏอยู่แล้วว่าโจทก์แต่งตั้งให้นางล้านภริยาเป็นตัวแทนฟ้องคดี อีกทั้งทรัพย์สินของภริยาซึ่งไม่ปรากฏว่าเป็นสินส่วนตัวย่อมสันนิษฐานว่าเป็นสินบริคณห์ สามีจึงมีส่วนเป็นเจ้าของร่วมอยู่ด้วย สามีมีสิทธิฟ้องคดีได้ และจะมอบอำนาจให้ผู้อื่นฟ้องคดีก็ได้ การที่โจทก์ฟ้องว่าทรัพย์สินที่ถูกเพลิงไหม้เป็นของโจทก์ และมอบอำนาจให้นางล้านภริยาโจทก์ฟ้องคดี จึงทำได้

พิพากษายืน

Share