คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1867/2492

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

สัญญาซื้อขายที่นาไม่มีหนังสือสำคัญ ซึ่งทำกันเอง และมีข้อความในสัญญาว่า ซื้อขายกันเด็ดขาด และผู้ขายได้รับเงินไปเสร็จแล้ว ผู้ขายสัญญาจะไปทำหนังสือซื้อขายต่อเจ้าพนักงานให้เมื่อเปิดทำการและผู้ขายได้มอบที่ดินให้ผู้ซื้อครอบครองมากว่า 10 ปีแล้ว ดังนี้ต้องถือว่า ทำสัญญาซื้อขายกันเด็ดขาด ผู้ขายสละสิทธิส่งมอบที่ดินโอนความเป็นเจ้าของแก่ผู้ซื้อแล้ว ผู้ซื้อและผู้ครอบครองต่อมาย่อมได้สิทธิเป็นเจ้าของ
(อ้างฎีกาที่ 649/2492)

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องแสดงกรรมสิทธิที่นา ข้อเท็จจริงได้ความตามที่รับกันว่า นายเทศนางนุ่ม ได้ทำสัญญาขายนาไม่มีหนังสือสำคัญ ๑ แปลงให้นายชิดนายคำ พ่อตาแม่ยายโจทก์แต่ พ.ศ. ๒๔๖๖ ตามเอกสารหมาย ก. นายชิดนางคำได้ครอบครองทำนาแล้วยกนารายนี้ให้โจทก์ครอบครองต่อมา ๑๐ ปีแล้ว คู่ความไม่สืบพะยาน
สัญญาหมาย ก. มีใจความว่า นายเทศนางนุ่มขายขาดนาแปลงนี้แก่นายชิตนางคำเป็นเงิน ๑๒๐๐ บาท และได้รับเงินไปเสร็จแล้ว เวลานี้อำเภอและหอทะเบียนปิดทำงาน เปิดทำการเมื่อใด ข้าพเจ้าทั้งสองจะไปทำสัญญาขายกรรมสิทธิให้แก่นายชิตนางคำทันที หากบิดพริ้วก็ยอมให้ฟ้องร้องบังคับ
ศาลชั้นต้นเห็นว่า เป็นการซื้อขายกันเด็ดขาดและมอบที่ดินให้ครอบครองมาเกิน ๑๐ ปี โจทก์ได้กรรมสิทธิ พิพากษาว่าเป็นกรรมสิทธิของโจทก์ ห้ามจำเลยเกี่ยวข้อง
ศาลอุทธรณ์เห็นว่า ผู้ขายสละสิทธิมอบให้ผู้ซื้อครอบครองย่อมได้สิทธิ พิพากษายืน
จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาเห็นว่าเป็นเรื่องคู่สัญญามุ่งทำสัญญาซื้อขายกันเด็ดขาด ที่รายนี้ไม่มีหนังสือสำคัญ คงมีแต่ใบนำ จึงมีเพียงสิทธิครอบครอง เมื่อได้ส่งมอบต่อกันโดยเจตนาสละสิทธิแล้ว ย่อมเป็นผลสำเร็จในการโอนความเป็นเจ้าของทรัพย์แก่ผู้ซื้อ แต่สัญญามีข้อผูกพันอีกชั้นหนึ่งว่าผู้ขายจะไปทำหนังสือซื้อขายต่อเจ้าพนักงานให้เท่านั้น ผู้ซื้อและโจทก์ซึ่งครอบครองต่อมาย่อมได้สิทธิเป็นเจ้าของที่รายนี้แล้ว พิพากษายืน

Share