คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1866/2531

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

การที่ศาลอุทธรณ์เห็นด้วยกับศาลชั้นต้นที่พิพากษาลงโทษจำเลยในข้อหาร่วมกันปล้นทรัพย์โดยมีอาวุธติดตัวและใช้ยานพาหนะในการกระทำผิดโดยไม่ระบุวรรคในมาตราที่จำเลยกระทำผิดและใช้คำว่าเพิ่มโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 340ตรี นั้น ยังไม่ถูกต้อง เพราะมาตรา 340 ตรี เป็นบทกำหนดโทษไม่ใช่บทเพิ่มโทษ ศาลฎีกาพิพากษาแก้เป็นว่า จำเลยมีความผิดตามมาตรา 340 วรรคสอง,83,340 ตรี.

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า จำเลยทั้งสองกับพวกร่วมกันปล้นทรัพย์โดยมีอาวุธติดตัวและใช้ยานพาหนะในการกระทำผิด ขอให้ลงโทษจำเลยทั้งสองตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 340, 340 ตรี, 83
จำเลยทั้งสองให้การปฏิเสธ
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จำเลยที่ 1 มีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 340, 83 จำคุก 12 ปี เพิ่มโทษอีกกึ่งหนึ่งตามมาตรา 340 ตรีเป็นจำคุกจำเลยที่ 1 มีกำหนด 18 ปี ให้ยกฟ้องจำเลยที่ 2
จำเลยที่ 1 อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
จำเลยที่ 1 ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า พยานหลักฐานของโจทก์มีน้ำหนักและเหตุผลมั่นคงรับฟังได้ว่าจำเลยที่ 1 คือคนร้ายผู้ร่วมกระทำความผิดในคดีนี้ด้วยผู้หนึ่งพยานฐานที่อยู่ของจำเลยที่ 1 ไม่พอฟังหักล้างพยานหลักฐานของโจทก์ได้ จำเลยที่ 1จึงมีความผิดและต้องรับโทษตามฟ้อง ส่วนที่ขอให้ลงโทษเพียงสถานเบานั้น เห็นว่าคำรับสารภาพชั้นสอบสวนของจำเลยที่ 1 เป็นประโยชน์แก่การพิจารณาคดีอยู่บ้าง มีเหตุบรรเทาโทษควรลดโทษให้ แต่ที่ศาลอุทธรณ์เห็นด้วยกับการที่ศาลชั้นต้นพิพากษาลงโทษจำคุกโดยไม่ระบุวรรคในบทมาตราที่จำเลยที่ 1 กระทำความผิด และใช้คำว่าเพิ่มโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 340 ตรี มานั้นยังไม่ถูกต้อง เพราะตามมาตรา 340 ตรี เป็นเพียงบทกำหนดโทษไม่ใช่บทเพิ่มโทษ
พิพากษาแก้เป็นว่า จำเลยที่ 1 มีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 340 วรรคสอง, 83, 340 ตรี ให้จำคุกจำเลยที่ 1 มีกำหนด 18 ปี ลดโทษให้ตามมาตรา 78 หนึ่งในสี่ คงจำคุกจำเลยที่ 1มีกำหนด 13 ปี 6 เดือน นอกจากที่แก้ให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลอุทธรณ์.

Share