แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
โจทก์บรรยายฟ้องว่า จำเลยกับพวกร่วมกันเล่นการพนัน เจ้าพนักงานจับจำเลยได้พร้อมด้วยเงินอันเป็นทรัพย์สินที่ใช้ในการเล่นการพนันจากวงการเล่นเป็นของกลาง จำเลยให้การรับว่าการกระทำความผิดตามฟ้องจริง แปลได้ว่ารับสารภาพตามฟ้องทุกประการ เมื่อโจทก์กล่าวในฟ้องว่าเงินของกลางเป็นทรัพย์สินที่ใช้ในการเล่นการพนัน จึงต้องริบตามพระราชบัญญัติการพนัน ถ้าจำเลยเห็นว่าเงินนั้นส่วนหนึ่งเป็นของตนซึ่งมิได้เอาออกพนัน ก็ชอบที่จะให้การต่อสู้ไว้ และจำเลยก็มิได้อุทธรณ์คำพิพากษาให้ริบของกลางจนคดีนี้ถึงที่สุดแล้ว กรณีจึงไม่เข้าหลักเกณฑ์ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 36 ที่จำเลยจะมีสิทธิยื่นคำร้องขอเงินของกลางคืนได้
ศาลชั้นต้นพิจารณาคดีในชั้นขอให้คืนของกลาง แล้วสั่งคืนให้ผู้ร้องประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 193 ทวิ มิได้ห้ามโจทก์อุทธรณ์คำสั่งดังกล่าวนี้
ย่อยาว
กรณีนี้สืบเนื่องมาจากโจทก์ฟ้องจำเลยกับพวกร่วมกันเล่นการพนันโปปั่นโดยไม่ได้รับอนุญาต จำเลยทุกคนเว้นแต่จำเลยที่ ๑๐ ให้การรับสารภาพ ศาลชั้นต้นพิพากษาลงโทษและสั่งริบของกลางรวมทั้งสิ้น ๕,๑๘๖ บาท แล้ว
นายซ้าย แซ่เอี่ยว จำเลยที่ ๗ ผู้ร้องยื่นคำร้องว่า เงินของกลาง ๕,๑๘๖ บาทที่ศาลชั้นต้นสั่งริบ ความจริงเป็นเงินของผู้ร้องที่มิได้เอาออกพนันกันจำนวน ๔,๔๕๐ บาท โดยเป็นเงินซึ่งผู้ร้องเตรียมไว้ซื้อของ ๓,๗๕๐ บาท ได้ฝากไว้กับสิบตำรวจโทอนันต์ บุญรัตน์ ส่วนอีก ๗๐๐ บาทเป็นเงินที่เจ้าพนักงานล้วงเอาไปจากระเป๋าของผู้ร้องหลักจากจับกุมแล้ว ขอให้สั่งคืนเงิน ๔,๔๕๐ บาทให้ผู้ร้อง
โจทก์ยื่นคำคัดค้านว่า จากข้อเท็จจริงตามคำฟ้องและคำให้การรับสารภาพของจำเลย ต้อถือว่าธนบัตรชนิดต่าง ๆ เป็นทรัพย์สินที่ใช้ในการเล่นการพนัน จับได้จากการวงการเล่น จะมาฟังเป็นเรื่องเจ้าพนักงานล้วงเอาจากกระเป๋าของผู้ร้องหรือเหตุอื่นไม่ได้ และถ้าเป็นดังผู้ร้องอ้างก็จะต้องปฏิเสธเสียแต่แรก ศาลได้พิพากษาริบของกลางแล้ว ผู้ร้องมิได้อุทธรณ์คำพิพากษาศาลชั้นต้นภายใน ๑๕ วัน คดีขาดอายุความแล้ว ขอให้ยกคำร้อง
ศาลชั้นต้นพิจารณาแล้ว มีคำสั่งให้คืนเงิน ๔,๔๕๐ บาทให้แก่ผู้ร้อง
โจทก์อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษากลับ ให้ยกคำร้อง
ผู้ร้องฎีกา
ศาลฎีกาเห็นว่า คำให้การของจำเลยรวมทั้งผู้ร้องยกเว้นจำเลยที่ ๑๐ แปลได้ว่าได้ให้การรับสารภาพฟ้องทุกประการ เพราะฉะนั้น เมื่อโจทก์กล่าวในฟ้องว่า เงินของกลางเป็นทรัพย์สินที่ใช้ในการเล่นการพนัน พ.ศ. ๒๔๗๘ มาตรา ๑๐ ถ้าผู้ร้องเห็นว่าเงินจำนวน ๔,๔๕๐ บาทของตนเป็นทรัพย์สินซึ่งมิได้เอาออกพนัน ผู้ร้องก็ชอบที่จะให้การต่อสู้ไว้ เพื่อเป็นประเด็นที่จะได้พิจารณากันต่อไป และผู้ร้องก็มิได้อุทธรณ์คำพิพากษาให้ริบของกลางภายในกำหนดระยะเวลาตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญาถึงที่สุดแล้ว ผู้ร้องมีสิทธิยื่นคำร้องขอเงินของกลางคืนได้ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๓๓-๓๖ นั้น ศาลฎีกาเห็นฟ้องกับคำวินิจฉัยของศาลอุทธรณ์ที่ว่า กรณีนี้ไม่เข้าหลักตามมาตรา ๓๖ แห่งประมวลกฎหมายอาญา และผู้ร้องฎีกาว่าโจทก์ไม่มีสิทธิ์อุทธรณ์คำสั่งศาลชั้นต้นซึ่งสั่งคืนเงินของกลาง ๔,๔๕๐ บาทให้ผู้ร้อง เพราะต้องห้ามตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา ๑๙๓ ทวินั้นศาลฎีกาเห็นว่าบทบัญญัติของมาตรานี้มิได้ห้ามอุทธรณ์คำสั่งศาลชั้นต้นในกรณีดังกล่าวมาข้างต้น ศาลอุทธรณ์พิพากษาชอบแล้ว ฎีกาของผู้ร้องฟังไม่ขึ้น
พิพากษายืน