คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1865/2492

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ความเสียหายอันเกิดจากผู้ทรงเช็ค ไม่นำเช็คไปขึ้นเงินต่อธนาคารภายในกำหนดนั้น หมายถึงความเสียหายซึ่งผู้สั่งจ่ายสูญเสียเงิน เช่น ธนาคารล้มละลายเป็นต้น
ในกรณีที่ผู้ทรงเช็คไม่นำเช็คไปเบิกเงินต่อธนาคารภายในกำหนดนั้น ผู้ทรงเช็คยังคงมีสิทธิฟ้องเรียกเงินตามเช็คต่อผู้สั่งจ่าย

ย่อยาว

ศาลได้สั่งให้พิทักษ์ทรัพย์บริษัท ข.เด็ดขาด ผู้รับมอบอำนาจจากกรมสรรพสามิตได้ยื่นคำร้องขอรับชำระหนี้ต่อเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ ตามที่บริษัท ข. ได้ออกเช็คจ่ายให้กรมสรรพสามิตซึ่งข้อเท็จจริงได้ความว่าบริษัท ข.ไม่มีเงินในธนาคาร แต่มีข้อตกลงกันว่าธนาคารจะจ่ายเงินตามเช็คของบริษัท ข.แล้วไปคิดเอากับสำนักงานกลางบริษัทจังหวัด แล้วสำนักงานกลางบริษัทจังหวัดไปคิดเอากับบริษัท ข.อีกต่อหนึ่ง กรมสรรพสามิตได้นำเช็คไปขึ้นต่อธนาคาร ๆ ไม่มีเงินพอจ่าย จึงไม่ได้ขึ้นเงินตามเช็คดังกล่าว

ศาลชั้นต้นเห็นว่า กรมสรรพสามิตละเลย ไม่ยื่นเช็คต่อธนาคารภายในกำหนดตามกฎหมาย ทำให้บริษัทเสียหาย บริษัทหลุดพ้นความรับผิดจึงร้องขอชำระหนี้ไม่ได้

ศาลอุทธรณ์เห็นว่า ธนาคารยังไม่จ่ายเงินตามเช็ค และบริษัทยังไม่ได้ชำระหนี้ หนี้จึงยังไม่ระงับตามมาตรา 321, 1005 และบริษัทไม่เสียหาย พิพากษาแก้ให้ขอรับชำระหนี้จำนวนนี้ได้

เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ฎีกา

ศาลฎีกาเห็นว่า ความเสียหายของผู้สั่งจ่ายตามมาตรา 990 เกี่ยวกับเงินที่ผู้สั่งจ่ายมีอยู่ในธนาคาร แต่คดีนี้บริษัท ข.ไม่มีเงินที่ผู้สั่งจ่ายอยู่ในธนาคารแต่คดีนี้บริษัท ข.ไม่มีเงินฝากในธนาคาร ที่ธนาคารไม่จ่ายเงินตามเช็คของบริษัท ข.ไม่ว่าเช็คนั้นจะได้นำไปขึ้นเงินในกำหนดหรือไม่ ไม่เรียกว่าบริษัทข. เสียหายอันจะเป็นทางหลุดพ้นตามมาตรา 990 สิทธิตามเช็คนั้นยังมีอยู่ เพราะไม่มีฝ่ายใด อ้างว่า สูญสิ้นสิทธิเพราะอายุความไม่จำต้องพิจารณาตามมาตรา 1005

พิพากษายืน

Share