คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 186-187/2472

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ทำสัญญาเช่าที่ดินกันเองเกิน 3 ปี ถ้ามีเหตุสมควรศาลบังคับให้ไปจดทะเบียนได้ ผู้เช่าผิดสัญญา ผู้ให้เช่าทราบไม่ทักท้วงกลับรับค่าเช่าเพิ่มอีกนับว่าสละสิทธิเสียแล้วเทียบฎีกาที่ 365/122 ที่ 848-849/2470

ย่อยาว

เรื่องนี้เดิมโจทก์ทำสัญญาให้จำเลยเช่าที่ดินมีกำหนด ๓ ปี แลห้ามไม่ให้ผู้เช่าปลูกสร้างอะไรลงในที่ดินนั้น แลถ้ามีการเสียหาย ผู้เช่าจะต้องรับผิด ในวันเดียวกันนั้นโจทก์ได้ทำสัญญาอีกฉะบับหนึ่งยอมให้ผู้เช่าเช่าที่ดิน ๑๐ ปี แลยอมให้ผู้เช่าปลูกสร้างได้ แลให้นับว่าสัญญาฉะบับหลังนี้เปนสัญญาฉะบับเดียวกันกับฉะบับแรก กับรับเงินมัดจำ ๒๖๐ บาท โดยมีข้อไขว่าถ้าจำเลยเช่าไม่ถึง ๑๐ ปีให้ริบเงินมัดจำนี้ จำเลยได้ปลูกสร้างบางสิ่งลงในที่ดินนั้น แต่ในเวลาต่อ ๆ มาโจทก์ยอมรับเงินค่าเช่าเพิ่มจากจำเลยอีกโดยไม่ทักท้วงในข้อที่จำเลยผิดสัญญาดังนี้
ปัญหามีว่า ( ๑ ) สัญญาเช่าซึ่งทำกันเองจะใช้เพียงไร ( ๒ ) เมื่อจำเลยผิดสัญญา แต่โจทก์ทราบแล้วไม่ว่ากล่าวเปนการให้อนุญาตโดยปริยาย แต่จำเลยได้ปลูกสร้างสิ่งต่าง ๆ ลงในที่ดินบ้างแล้ว ให้โจทก์ใช้ค่าปลูกสร้าง ๓๒๐๐ บาท แลให้คืนเงินมัดจำ แลให้จำเลยออกจากที่ดิน
ศาลอุทธรณ์เห็นฟ้องกับศาลเดิมว่าจำเลยผิดสัญญา แต่โจทก์ทราบแลไม่ทักท้วงกลับยอมรับค่าเช่าเพิ่มขึ้น จึงถือว่าจำเลยไม่ผิดสัญญา ส่วนสัญญาทำกัน+ ๑๐ ปีนั้น เมื่อพิเคราะห์ดูเหตุผลทั่วๆไปแล้ว ทั้ง ๒ ฝ่ายตั้งใจจะให้เช่ากัน ๑๐ ปีจริง ๆ จึงเห็นว่าเปนสัญญาจะเช่าตามกำหนด ศาลย่อมบังคับให้ทำเสียให้ถูกแบบได้จึงตัดสินให้โจทก์นำสัญญาเช่าไปจดทะเบียนมีกำหนด ๑๐ ปี หรือชั่วอายุของโจทก์ เพราะปรากฎว่าโจทก์มีสิทธิจะเก็บผลประโยชน์ในที่นั้นชั่วอายุของโจทก์
ศาลฎีกาเห็นว่าจำเลยทำให้ทรัพย์ที่เช่านั้นเสียหายจริง แต่โจทก์ทราบแล้วไม่ทักท้วง กลับรับเอาค่าเช่าเพิ่มขึ้น นับว่าโจทก์ได้สละสิทธิอันเกินแต่การกระทำผิด โจทก์จะอ้างเหตุนี้มาฟ้องขับไล่จำเลยไม่ได้ ส่วนสัญญาเช่าทำกันเองนั้นข้อเท็จจริงซึ่งศาลฎีกาเชื่อ คือ เมื่อทำสัญญากันแล้ว โจทก์ตกลงจะนำสัญญาไปจดทะเบียนจริง จึงบังคับให้โจทก์ไปจดทะเบียนสัญญาเช่าให้ถูกต้องมีกำหนด ๑๐ ปี เพราะปรากฎว่าเวลานี้โจทก์มีกรรมสิทธิในที่ดินนั้นแล้ว แลประมวลแพ่ง ม.๑๑๕ ที่โจทก์อ้างจะนำมาปรับคดีนี้ไม่ได้

Share