คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1855/2529

แหล่งที่มา : ADMIN

ย่อสั้น

กรณีที่โจทก์ไม่ได้ตัวผู้เสียหายมาสืบหรือประจักษ์พยานไม่ยืนยันว่าจำเลยเป็นคนร้ายโดยเบิกความขัดกับคำให้การชั้นสอบสวนโดยปราศจากเหตุผลหากโจทก์มีพยานหลักฐานอื่นก็อาจใช้ประกอบกันเพื่อรับฟังลงโทษจำเลยได้.

ย่อยาว

โจทก์ ฟ้อง ว่า จำเลย ทั้ง สาม ร่วมกัน ปล้นทรัพย์ สร้อยคอ นาก 1 เส้นและ พระ 1 องค์ รวม ราคา 500 บาท ของ ผู้เสียหาย ขอ ให้ ลงโทษ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 33, 83, 340 ประกาศ ของ คณะปฏิวัติ ฉบับที่ 11(พ.ศ. 2514) ข้อ 14 คืน สร้อยคอนาก ของกลาง แก่ เจ้าของ และ ริบมีดปลายแหลม ของกลาง
จำเลย ทั้ง สาม ให้การ ปฏิเสธ
ศาลชั้นต้น พิพากษา ว่า จำเลย ทั้ง สาม มี ความผิด ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 83, 340 วรรคสอง ประกาศ ของ คณะปฏิวัติ ฉบับที่11 ลง วันที่ 21 พฤศจิกายน 2514 ข้อ 14 วางโทษ จำคุก คนละ 15 ปี จำเลยทั้ง สาม ให้การ รับสารภาพ ชั้น จับกุม และ สอบสวน ลดโทษ หนึ่ง ใน สามตาม ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 78 จำคุก คนละ 10 ปี ริบ มีดปลายแหลมของกลาง ส่วน สร้อยคอนาก ของกลาง ปรากฏ ว่า ได้ คืน เจ้าของ ไป แล้วจึง ให้ ยก
จำเลย ทั้ง สาม อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์ พิพากษา ยืน
จำเลย ทั้ง สาม ฎีกา
ศาลฎีกา วินิจฉัย ว่า คดี นี้ โจทก์ มี ประจักษ์พยาน สอง ปาก คือนางสาว นินทา ปานอารัก ผู้เสียหาย และ นาย เล็ก มั่นมี แต่ โจทก์ ไม่สามารถ นำ ผู้เสียหาย มา สืบ เพราะ หา ตัว ไม่ พบ คง ส่ง แต่ คำให้การชั้น สอบสวน ส่วน นาย เล็ก ประจักษ์พยาน อีก ปาก หนึ่ง เบิกความ ไม่ยืนยัน ว่า จำเลย ทั้ง สาม เป็น คนร้าย โดย อ้าง ว่า ขณะ เกิดเหตุ มืดพยาน ไม่ ได้ มอง หน้า คนร้าย จึง จำ คนร้าย ไม่ ได้ ซึ่ง เป็น การเบิกความ ขัด กับ คำให้การ ชั้น สอบสวน ที่ ยืนยัน ว่า จำเลย ทั้ง สามเป็น คนร้าย เห็นว่า แม้ โจทก์ จะ ไม่ ได้ ตัว ผู้เสียหาย มา สืบหรือ ประจักษ์พยาน ไม่ ยืนยัน ว่า จำเลย ทั้ง สาม เป็น คนร้าย ก็ มิได้หมายความ ว่า ศาล ต้อง ฟัง ข้อเท็จจริง ว่า จำเลย ทั้ง สาม มิได้ เป็นคนร้าย เสมอไป กรณี ที่ ประจักษ์พยาน เบิกความ ขัด กับ คำให้การ ชั้นสอบสวน โดย ปราศจาก เหตุผล หาก โจทก์ มี พยาน หลักฐาน อื่น ก็ อาจ ใช้ประกอบ กัน เพื่อ ฟัง ว่า จำเลย ทั้ง สาม เป็น คนร้าย ได้ ตามข้อเท็จจริง ปรากฏ ว่า คืน เกิดเหตุ นั้นเอง เจ้าพนักงาน ตำรวจ พานาย เล็ก ตระเวน หา คนร้าย ใน บริเวณ ที่เกิดเหตุ เมื่อ นาย เล็ก พบจำเลย ทั้ง สาม นาย เล็ก ชี้ ให้ เจ้าพนักงาน ตำรวจ จับ จำเลย ทั้ง สามทันที โดย ยืนยัน ว่า จำเลย ทั้ง สาม เป็น คนร้าย เป็น พฤติการณ์ ที่แสดง ให้ เห็น ว่า นาย เล็ก จำ คนร้าย ได้ แม่นยำ ว่า เป็น จำเลย ทั้งสาม อีก ประการ หนึ่ง เมื่อ เจ้าพนักงาน ตำรวจ จับ จำเลย ทั้ง สาม นั้นเจ้าพนักงาน ตำรวจ ได้ ยึด มีดปลายแหลม และ สร้อยคอนาก ของ นางสาว นินทาผู้เสียหาย ได้ จาก จำเลย ที่ 3 เป็น ของกลาง นอกจาก นี้ จำเลย ทั้ง สามให้การ รับสารภาพ มา ตั้งแต่ ชั้น จับกุม จน ถึง ชั้น สอบสวน และ ในชั้น สอบสวน จำเลย ทั้ง สาม ได้ นำ ชี้ ที่ เกิดเหตุ แสดง การ กระทำผิด ของ จำเลย ทั้ง สาม ไว้ ชัดแจ้ง ตาม คำให้การ รับสารภาพ ชั้น สอบสวนของ จำเลย ทั้ง สาม ก็ มี เนื้อหา สาระ รายละเอียด ตรงกับ เหตุการณ์ที่ เกิดขึ้น ใน คดี นี้ พยานหลักฐาน ของ โจทก์ จึง มั่นคง และ รับฟังได้ ว่า จำเลย ทั้ง สาม เป็น คนร้าย ฎีกา ของ จำเลย ทั้ง สาม ฟัง ไม่ขึ้น
พิพากษา ยืน

Share