แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
คณะกรรมการเวนคืนอสังหาริมทรัพย์ฯ ได้จ่ายเงินค่าทำขวัญทดแทนรายของโจทก์.ให้แก่ผู้ที่ไม่มีอำนาจรับชำระ. อันเป็นการชำระหนี้ผิดไป คณะกรรมการจึงต้องชำระให้โจทก์ใหม่.
มาตรา 10 แห่งพระราชบัญญัติว่าด้วยการเวนคืนอสังหาริมทรัพย์พ.ศ.2497 เป็นบทบัญญัติว่าด้วยผู้รับประโยชน์ในการที่จะได้รับชดใช้จากเงินค่าทำขวัญทดแทน. เช่นผู้รับจำนองผู้ทรงบุริมสิทธิหรือทรัพยสิทธิอย่างอื่นซึ่ง.ไม่ใช่เป็นเจ้าของที่ดิน. โจทก์จึงไม่อยู่ในบังคับที่จะต้องขอรับเงินค่าทำขวัญทดแทนภายใน 1 เดือน ตามมาตรา 20. สำหรับมาตรา 26 ก็ใช้บังคับเฉพาะกรณีที่เจ้าหน้าที่จ่ายเงินค่าทำขวัญทดแทนให้แก่ผู้มีสิทธิได้รับตามกฎหมายคนใดคนหนึ่งไปแล้ว. เจ้าหน้าที่จึงจะไม่ต้องรับผิดชอบต่อบุคคลที่มาเสนอคำขอร้องในภายหลัง. ฉะนั้น ในกรณีที่เจ้าหน้าที่จ่ายเงินให้ผู้ไม่มีสิทธิรับไป. ย่อมไม่ได้รับความคุ้มครองตามมาตรานี้.
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องว่า จำเลยเป็นเจ้าหน้าที่เวนคืนที่ดินเพื่อสร้างและขยายทางหลวงเทศบาล ฯลฯ ในการนี้ ที่ดินของโจทก์โฉนดที่ 418ถูกเวนคืน 25 ตารางวา นายนอบได้ปลอมใบมอบฉันทะและนำไปใช้รับเงินค่าทดแทนแทนโจทก์ จำนวน 50,000 บาท จากเจ้าหน้าที่จำเลย ต่อมาจำเลยไม่ชำระให้โจทก์ จึงขอให้จำเลยชำระพร้อมดอกเบี้ย จำเลยให้การว่า ที่ดินโจทก์ถูกเวนคืน 25 ตารางวา เป็นเงิน45,000 บาท หนังสือมอบอำนาจนั้นไม่ใช่เอกสารปลอม หากปลอมก็เพราะโจทก์สมรู้กับนายนอบร่วมใจทำขึ้นเพื่อโกงจำเลย ฯลฯ ศาลชั้นต้นเห็นว่า ใบมอบอำนาจที่จำเลยอ้างว่าโจทก์มอบอำนาจให้นายนอบเป็นใบมอบอำนาจปลอม พิพากษาให้จำเลยใช้เงินค่าทำขวัญทดแทนที่ดินเป็นเงิน 45,000 บาท พร้อมด้วยดอกเบี้ย ฯลฯ จำเลยอุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน จำเลยฎีกา ศาลฎีกาฟังข้อเท็จจริงว่า คดีฟังไม่ได้ว่าโจทก์รู้เห็นกับนายนอบ หรือให้สัตยาบันแก่การกระทำของนายนอบ ศาลฎีกาเห็นว่า กรณีเป็นว่าคณะกรรมการเวนคืนอสังหาริมทรัพย์ได้จ่ายเงินค่าทำขวัญทดแทนรายของโจทก์ให้แก่ผู้ที่ไม่มีอำนาจรับชำระ อันเป็นการชำระหนี้ผิดไปคณะกรรมการฯ ต้องชำระให้โจทก์ใหม่ ตามที่จำเลยอ้างว่า ตามพระราชบัญญัติว่าด้วยการเวนคืนอสังหาริมทรัพย์ พ.ศ. 2497 มาตรา 10, 19 และ 24 ซึ่งต้องนำมาใช้บังคับในคดีนี้ด้วย โจทก์จะต้องเสนอคำร้องขอรับเงินค่าทำขวัญทดแทนต่อกรรมการเวนคืนอสังหาริมทรัพย์ภายใน 1 เดือน นับแต่วันได้รับแจ้งจากจำเลยให้ไปขอรับเงินจากคณะกรรมการเวนคืนอสังหาริมทรัพย์ คือนับแต่วันที่โจทก์ได้รับเอกสารหมาย ล.6 เมื่อวันที่ 10 พฤศจิกายน2497 และเมื่อเจ้าหน้าที่ได้จ่ายเงินค่าทำขวัญทดแทนไปแล้วเจ้าหน้าที่ไม่ต้องรับผิดชอบต่อบุคคลผู้ที่มาเสนอคำขอร้อง ผู้ขอร้องมีสิทธิแต่จะฟ้องร้องบุคคลผู้รับเงินค่าทำขวัญทดแทนไปนั้นเท่านั้น ศาลฎีกาเห็นว่า โจทก์เป็นเจ้าของที่ดิน มีสิทธิได้รับเงินค่าทำขวัญทดแทนโดยตรงตามมาตรา 11 ส่วนมาตรา 10 เป็นบทบัญญัติว่าด้วยผู้รับประโยชน์ในการที่จะได้รับชดใช้จากเงินค่าทำขวัญทดแทน เช่นผู้รับจำนอง ผู้ทรงบุริมสิทธิหรือทรัพย์สิทธิอย่างอื่นซึ่งไม่ใช่เจ้าของที่ดิน โจทก์จึงไม่อยู่ในบังคับที่จะต้องขอรับเงินค่าทำขวัญทดแทนภายใน 1 เดือน ตามมาตรา 10 สำหรับมาตรา 26 ก็ใช้บังคับเฉพาะกรณีที่เจ้าหน้าที่จ่ายเงินค่าทำขวัญทดแทนให้แก่ผู้มีสิทธิได้รับตามกฎหมายคนใดคนหนึ่งไปแล้ว เจ้าหน้าที่จึงจะไม่ต้องรับผิดชอบต่อบุคคลที่มาเสนอคำขอร้องในภายหลัง ฉะนั้น ในกรณีที่เจ้าหน้าที่จ่ายเงินให้ผู้ไม่มีสิทธิรับไป ย่อมไม่ได้รับความคุ้มครองตามมาตรานี้ พิพากษายืน.