คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 185/2499

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

จับไม้หวงห้ามไม่มีตราค่าภาคหลวงได้บนรถบรรทุกซึ่งจอดอยู่ใกล้บ้านเจ้าของรถผู้ซึ่งได้รับอนุญาตตัดไม้มาหลายปีแล้วขณะจับภรรยามาทำบันทึกรับรองว่าเป็นไม้ของเจ้าของรถ ต่อมาตนเองยังได้มาพูดรับรองต่อเจ้าพนักงานว่าเป็นไม้ของตนอีกดังนี้ย่อมถือได้ว่เจ้าของรถบรรทุกไม้สมคบกับจำเลยอื่นมีไม้รายนี้ไว้ในความครอบครองด้วย.

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่าจำเลยสมคบกันมีไม้หวงห้ามโดยมิได้มีรอยตราค่าภาคหลวงประทับไว้ในความครอบครองเพื่อการค้า ๔ ท่อน ขอให้ลงโทษ
จำเลยที่ ๑ ให้การปฏิเสธและว่าจำเลยที่ ๕ มาจ้างรถยนต์ให้บรรทุกไม้ จำเลยที่ ๒,๓,๔ ต่อสู้ว่าเป็นลูกจ้างขับรถจำเลยที่ ๑ ๆ สั่งให้ไปบรรทุก จำเลยที่ ๕ รับสารภาพว่าจ้างรถยนต์จำเลยที่ ๑ ไปบรรทุกจริงเพื่อไปปลูกบ้าน
ศาลชั้นต้นปรับจำเลยที่ ๒,๓,๔ คนละ ๒๘๐ บาท ตาม พ.ร.บ.ป่าไม้ พ.ศ.๒๔๘๔ ม.๖๙ แก้ไขโดย พ.ร.บ.ป่าไม้(ฉบับที่๓) พ.ศ.๒๔๙๔ ม.๑๖ และให้ยกฟ้องจำเลยที่ ๑,๕
โจทก์ จำเลยอุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้ว่าจำเลยที่ ๑ มีความผิดฐานสมคบกับจำเลยที่ ๒,๒,๔ ด้วยปรับ ๒๘๐ บาท
จำเลยที่ ๑ ฎีกาว่าไม่ได้สมคบมีไม้ไว้ในครอบครอง
ศาลฎีกาเห็นว่าจำเลยนี้ (นายวัฒนะ) เป็นผู้มีรถบรรทุกไม้และได้รับอนุญาตตัดไม้หลายปีแล้วย่อมเป็นผู้รู้เรื่องในการทำไม้ดี และในชั้นแรกเมื่อเจ้าพนักงานจับไม้นางบาหยันภรรยาจำเลยที่ ๑ ก็มาทำบันทึกรับรองว่าเป็นไม้ของจำเลยที่ ๑ และต่อมาจำเลยที่ ๑ ก็พูดรับรองต่อเจ้าพนักงานว่าเป็นไม้ของตน นับว่าคดีมีเหตุผลให้ฟังว่าจำเลยสมคบกันมีไม้รายนี้ไว้ในความครอบครองจริง
พิพากษายืน.

Share