คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1849/2531

แหล่งที่มา : เนติบัณฑิตยสภา

ย่อสั้น

การเลิกจ้างกรรมการลูกจ้างตามพระราชบัญญัติแรงงานสัมพันธ์มาตรา 52 นายจ้างจะต้องมีเหตุจำเป็นหรือเหตุอันสมควรที่จะเลิกจ้างโดยเหตุนั้นอาจเกิดจากกรรมการลูกจ้างหรือเป็นเหตุจากทางฝ่ายนายจ้าง หรือบุคคลภายนอกก็ได้ ผู้ร้องซึ่งเป็นนายจ้างเป็นรัฐวิสาหกิจการดำเนินกิจการต้องปฏิบัติตามมติคณะรัฐมนตรี เมื่อคณะรัฐมนตรีมีมติให้ผู้ร้องปลูกสร้างโรงแรมขึ้นใหม่ในที่ดินที่เป็นที่ตั้งโรงแรมเดิม ผู้ร้องจึงจำเป็นต้องหยุดดำเนินกิจการโรงแรมดังกล่าวและทำให้งานซึ่งผู้คัดค้านทำอยู่ต้องสิ้นสุดลง ผู้ร้องจึงมี เหตุจำเป็นหรือเหตุอันสมควรที่จะเลิกจ้างผู้คัดค้านได้

ย่อยาว

ผู้ร้องยื่นคำร้องว่า คณะรัฐมนตรีได้มีมติอนุมัติให้ผู้ร้องให้เช่าที่ดินซึ่งเป็นที่ตั้งของโรงแรมเอราวัณและร่วมลงทุนกับบริษัทอัมรินทร์ ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด ในการจัดสร้างโรงแรมใหม่ผู้ร้องจำเป็นต้องเลิกกิจการโรงแรมเอราวัณและเลิกจ้างลูกจ้างของผู้ร้อง เนื่องจากผู้คัดค้านทั้งแปดเป็นกรรมการลูกจ้าง จึงขออนุญาตเลิกจ้างผู้คัดค้านทั้งแปด ผู้คัดค้านทั้งแปดยื่นคำคัดค้านว่าการดำเนินการปรับปรุงกิจการโรงแรมเอราวัณเป็นเพียงการหยุดกิจการชั่วคราวเท่านั้น ผู้ร้องยังคงมีสภาพเป็นนิติบุคคล ผู้ร้องร่วมทุนกับบริษัทอื่นหนึ่งในสาม จึงไม่มีความจำเป็นจะต้องเลิกจ้างผู้คัดค้านและคณะรัฐมนตรีกับคณะกรรมาธิการแรงงานสภาผู้แทนราษฎรมีความเห็นว่าเมื่อผู้ร้องได้ร่วมลงทุนกับบริษัทอัมรินทร์ฯ แล้วควรพิจารณารับลูกจ้างเดิมเข้าทำงานต่อไป ขอให้ยกคำร้องศาลแรงงานกลางมีคำสั่งอนุญาตให้ผู้ร้องเลิกจ้างผู้คัดค้านทั้งแปดผู้คัดค้านที่ 1 อุทธรณ์ต่อศาลฎีกา
ศาลฎีกาแผนกคดีแรงงานวินิจฉัยว่า “ผู้คัดค้านที่ 1 อุทธรณ์ว่าผู้คัดค้านมิได้กระทำความผิดหรือกระทำการใดอันเป็นการขัดต่อกฎหมายทั้งการที่ผู้ร้องหยุดกิจการโรงแรม เป็นเพียงผู้ร้องหยุดกิจการชั่วคราวไม่ใช่เป็นการเลิกบริษัท ซึ่งเป็นนิติบุคคล ผู้ร้องจึงไม่มีความจำเป็นที่จะต้องเลิกจ้างผู้คัดค้าน พิเคราะห์แล้ว เห็นว่า การเลิกจ้างกรรมการลูกจ้างตามพระราชบัญญัติแรงงานสัมพันธ์ พ.ศ. 2518 มาตรา 52นายจ้างต้องมีเหตุจำเป็นหรือเหตุอันสมควรที่จะเลิกจ้าง และเหตุนั้นอาจเกิดจากกรรมการลูกจ้างหรือเป็นเหตุจากทางฝ่ายนายจ้างหรือบุคคลภายนอกก็ได้ คดีนี้ข้อเท็จจริงปรากฏว่า ผู้ร้องซึ่งเป็นนายจ้างเป็นรัฐวิสาหกิจ การดำเนินกิจการต้องปฏิบัติตามมติของคณะรัฐมนตรี เมื่อคณะรัฐมนตรีมีมติให้ผู้ร้องปลูกสร้างโรงแรมขึ้นใหม่ในที่ดินที่เป็นที่ตั้งโรงแรมเอราวัณ การที่ผู้ร้องหยุดดำเนินกิจการโรงแรมเอราวัณ เพื่อรื้อถอนและปลูกสร้างโรงแรมใหม่จึงเป็นการปฏิบัติตามมติของคณะรัฐมนตรี และจากการที่ผู้ร้องจำเป็นต้องหยุดดำเนินกิจการโรงแรมดังกล่าว มีผลทำให้งานซึ่งผู้คัดค้านทำประจำในโรงแรมต้องสิ้นสุดลงโดยปริยาย ผู้ร้องจึงไม่มีงานใด ๆในโรงแรมซึ่งจะให้ผู้คัดค้านทำต่อไป ผู้ร้องย่อมมีเหตุจำเป็นหรือเหตุอันสมควรที่จะเลิกจ้างผู้คัดค้าน และกรณีเช่นนี้ หากให้ผู้คัดค้านคงมีสภาพเป็นลูกจ้างของผู้ร้องต่อไปผู้ร้องก็ต้องจ่ายค่าจ้างหรือค่าใช้จ่ายอื่นให้แก่ผู้คัดค้านโดยที่ผู้คัดค้านมิได้ทำงานเป็นการตอบแทนแก่ผู้ร้อง ซึ่งไม่เป็นธรรมแก่ผู้ร้อง ที่ศาลแรงงานกลางมีคำสั่งอนุญาตให้ผู้ร้องเลิกจ้างผู้คัดค้านนั้นชอบแล้ว อุทธรณ์ของผู้คัดค้านที่ 1 ฟังไม่ขึ้น”
พิพากษายืน

Share