คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1845/2517

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

จำเลยเป็นเสมียนศาล มีหน้าที่เก็บรักษาสำนวนความผู้พิพากษาหัวหน้าศาลตั้งให้จำเลยเป็นกรรมการปลดเผาสำนวนร่วมกับผู้อื่นในระหว่างการปลดเผาสำนวน จำเลยเอาแสตมป์ฤชากรที่ฉีกออกจากสำนวนที่จะต้องปลดเผาไปเสีย การกระทำของจำเลยเป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 158 เมื่อโจทก์ไม่มีพยานมาสืบว่าจำเลยนำแสตมป์เก่าที่ใช้แล้วนั้นไปใช้แสวงหาประโยชน์ที่มิควรได้โดยชอบด้วยกฎหมาย ไม่พอฟังว่าจำเลยเบียดบังยักยอกแสตมป์เหล่านั้นเป็นประโยชน์ส่วนตัวโดยทุจริต จึงไม่มีความผิดตามมาตรา 147, 157 ด้วย

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า จำเลยเป็นข้าราชการฝ่ายตุลาการประเภทข้าราชการธุรการสามัญชั้นจัตวา ซึ่งเป็นเจ้าพนักงานตามกฎหมายมีหน้าที่เก็บรักษาสำนวนความทั้งคดีแพ่งและอาญาของศาลแขวงนครศรีธรรมราช รวมทั้งแสตมป์ฤชากรที่ติดอยู่ในสำนวนนั้นด้วยผู้พิพากษาหัวหน้าศาลมีคำสั่งแต่งตั้งให้เป็นกรรมการร่วมกับผู้อื่นจัดการปลดเผาทำลายสำนวนความรวมทั้งแสตมป์ฤชากรที่ติดอยู่ในสำนวนด้วยระหว่างที่จำเลยมีหน้าที่ดังกล่าว จำเลยได้เบียดบังเอาแสตมป์ฤชากรที่ติดอยู่บนเอกสารในสำนวนความไปเป็นของตนเองหรือของผู้อื่นโดยทุจริต เป็นเหตุให้เกิดความเสียหายแก่ราชการศาลแขวงนครศรีธรรมราชและกระทรวงยุติธรรมอันเป็นการปฏิบัติหน้าที่และละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ และโดยทุจริต ขอให้ลงโทษจำเลยตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๑๔๗, ๑๕๗, ๑๕๘ ให้จำเลยคืนหรือใช้ราคาแสตมป์ฤชากรแก่ทางราชการศาลแขวงนครศรีธรรมราชและขอให้นับโทษต่อจากคดีดำที่ ๑๒/๒๕๑๖ ของศาลจังหวัดนครศรีธรรมราชด้วย
จำเลยให้การปฏิเสธ แต่รับว่าเป็นจำเลยคนเดียวกับในคดีอาญาดำที่ ๑๒/๒๕๑๖ ของศาลจังหวัดนครศรีธรรมราช
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๑๔๗, ๑๕๗, ๑๕๘ ลงโทษจำคุก ๕ ปี ยกคำขอที่ให้จำเลยคืนหรือใช้ราคาแสตมป์ นับโทษจำเลยต่อจากคดีหมายเลขดำที่ ๑๒/๒๕๑๖ หมายเลขแดงที่ ๕๔๕/๒๕๑๖ ของศาลจังหวัดนครศรีธรรมราช
จำเลยอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้คำพิพากษาศาลชั้นต้นว่า จำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๑๕๘ ลงโทษจำคุก ๑ ปี นอกนั้นให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น
โจทก์และจำเลยฎีกา
ศาลฎีกาฟังข้อเท็จจริงว่า จำเลยเอาแสตมป์ฤชากรตามฟ้องไปโดยมิได้เผาทำลาย แต่โจทก์ไม่มีพยานนำสืบว่าจำเลยนำแสตมป์เก่าที่ใช้แล้วนั้นไปใช้แสวงหาประโยชน์ที่มิควรได้โดยชอบด้วยกฎหมายไม่พอฟังว่าจำเลยเบียดบังยักยอกแสตมป์ที่ใช้แล้วไว้เป็นประโยชน์ส่วนตัวโดยทุจริต ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๑๔๗, ๑๕๗
พิพากษายืน

Share