คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1835/2492

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ผู้รับโอนที่ดินและจดทะเบียนการโอน โดยมีหนังสือมอบฉันทะซึ่งอ้างว่าเป็นของผู้โอนนั้นปลอมไม่ถือว่า เป็นการโอนโดยสุจริตผู้รับโอนไม่ได้สิทธิ ศาลสั่งเพิกถอนการโอนนั้นได้
ใบมอบฉันทะ ซึ่งแม้เดิมผู้มอบจะได้ลงชื่อทำขึ้นจริงแต่หากต่อมาผู้รับโอนอีกคนหนึ่งไปใส่ชื่อของตนเป็นผู้รับโอนที่ดินนั้น ภายหลังและลับหลังผู้มอบทำให้หนังสือนั้นกลายเป็นหนังสือปลอม

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า นางบุญได้เอานาพิพาทตีใช้หนี้ให้โจทก์โจทก์ครอบครองเป็นเจ้าของมาหลายปีแล้ว จำเลยที่ 1 ได้โอนนารายนี้ให้จำเลยที่ 2, 3 โดยอ้างว่าได้รับมอบฉันทะจากนางบุญ ซึ่งเป็นการฉ้อฉลโจทก์ขอให้ศาลพิพากษาว่าหนังสือสัญญาโอนที่ดินดังกล่าวเป็นโมฆะ และเพิกถอนทำลายเสีย

ศาลชั้นต้นเห็นว่า นางบุญสละสิทธิให้โจทก์แล้วจำเลยที่ 2, 3 ผู้รับโอนไม่ได้กรรมสิทธิ์ พิพากษาให้เพิกถอนสัญญาซื้อขายระหว่างจำเลย

ศาลอุทธรณ์เห็นว่า โจทก์ต่อสู้ ผู้ได้สิทธิมาโดยสุจริต เสียค่าตอบแทนและจดทะเบียนแล้วไม่ได้พิพากษากลับให้ยกฟ้อง

โจทก์ฎีกา

ศาลฎีกาเห็นว่า หนังสือขอซื้อขายที่นา และหนังสือมอบฉันทะให้นายจูมจำเลยที่ 1 โอนที่นานั้นเมื่อทำมาจากนางบุญ ไม่มีชื่อจำเลยที่ 3 จำเลยที่ 3 ได้ตกเติมชื่อว่า นายพรม มาตย์ผดุง ลงไปในเอกสารทั้ง 2 ฉบับนั้น ดังนี้ แม้หนังสือมอบฉันทะที่อ้างว่านางบุญทำขึ้นจะเป็นของแท้จริงมาแต่แรก แต่จำเลยที่ 3 ก็ได้ตกเติมข้อสำคัญลงไปในเอกสารภายหลังและลับหลังผู้ทำหนังสือนั้น ทำให้หนังสือนั้นกลายเป็นหนังสือปลอม ซึ่งจำเลยที่ 3 จะถือประโยชน์จากหนังสือนั้นไม่ได้ และศาลฎีกาฟังข้อเท็จจริงไม่เชื่อว่า นางบุญได้ทำใบมอบฉันทะนั้น

พิพากษากลับ ให้บังคับคดีตามศาลชั้นต้น

Share