แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยฐานบุกรุก ขอให้ขับไล่จำเลยและเรียกค่าเสียหาย ศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์ฟังข้อเท็จจริงต้องกันว่า โจทก์ไม่มีสิทธิครอบครองที่พิพาทการกระทำของจำเลยไม่เป็นความผิดฐานบุกรุกหรือละเมิดทางแพ่ง พิพากษายกฟ้อง ดังนี้ เป็นกรณีที่ศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์พิพากษายกฟ้องโจทก์โดยอาศัยข้อเท็จจริง จึงต้องห้ามฎีกาในความผิดฐานบุกรุกตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 220 ส่วนคดีทางแพ่งที่ขอให้ขับไล่จำเลยนั้น เป็นคดีแพ่งที่เกี่ยวเนื่องกับคดีอาญาในการพิพากษาคดีส่วนแพ่งศาลจำต้องถือข้อเท็จจริงตามที่ปรากฏในคำพิพากษาคดีส่วนอาญาตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 46 ศาลฎีกาต้องฟังข้อเท็จจริงว่า โจทก์ไม่มีสิทธิครอบครองที่พิพาท จึงไม่มีสิทธิขับไล่และเรียกค่าเสียหายจากจำเลย
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องว่า จำเลยบุกรุกเข้าไปปลูกอาคารในที่ดินที่โจทก์มีสิทธิครอบครอง ขอให้ลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 362, 365, 83ให้ขับไล่จำเลยกับบริวารออกไปและให้ใช้ค่าเสียหาย
ศาลชั้นต้นไต่สวนมูลฟ้องแล้ว มีคำสั่งประทับฟ้อง
จำเลยให้การว่า โจทก์ไม่มีสิทธิในที่ดินพิพาท จำเลยอาศัยปลูกอาคารในที่ดินของมณฑลทหารบกที่ 4 มิได้บุกรุกที่ดินโจทก์
ศาลชั้นต้นวินิจฉัยว่า โจทก์มิได้ครอบครองที่พิพาท พิพากษายกฟ้อง
โจทก์อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
โจทก์ฎีกาว่า โจทก์ครอบครองที่พิพาทและขอให้ลงโทษจำเลยตามฟ้องและขับไล่จำเลยกับบริวาร
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า ความผิดฐานบุกรุกศาลล่างทั้งสองฟังข้อเท็จจริงต้องกันว่า โจทก์ไม่มีสิทธิครอบครองที่พิพาท การกระทำของจำเลยทั้งสองไม่เป็นความผิดฐานบุกรุกหรือเป็นละเมิดทางแพ่ง พิพากษายกฟ้องเป็นการยกฟ้องโดยอาศัยข้อเท็จจริง ฉะนั้นที่โจทก์ฎีกาขอให้ลงโทษจำเลยฐานบุกรุกตามฟ้อง ต้องห้ามฎีกา ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 220 พระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา(ฉบับที่ 8) พ.ศ. 2517 มาตรา 8 ศาลฎีกาไม่รับวินิจฉัยให้
ส่วนคดีทางแพ่งที่โจทก์ฎีกาขอให้ขับไล่จำเลยกับบริวารออกจากที่พิพาทนั้น เห็นว่า คดีนี้เป็นคดีแพ่งที่เกี่ยวเนื่องกับคดีอาญา ในการพิพากษาคดีส่วนแพ่งศาลจำต้องถือข้อเท็จจริงตามที่ปรากฏในคำพิพากษาคดีส่วนอาญา ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 46 ศาลฎีกาต้องฟังข้อเท็จจริงว่า โจทก์ไม่มีสิทธิครอบครองที่พิพาทตามที่ศาลล่างทั้งสองฟังมาดังกล่าวตอนต้น โจทก์จึงไม่มีสิทธิขับไล่จำเลย และเรียกค่าเสียหายจากจำเลยทั้งสองไม่ได้ คำวินิจฉัยของศาลอุทธรณ์ชอบแล้ว
พิพากษายืน