คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1830/2539

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ศาลชั้นต้นนัดไต่สวนมูลฟ้องไว้ในวันที่25มีนาคม2537เวลา13.30นาฬิกาแต่ปรากฏว่าส่งหมายนัดไต่สวนมูลฟ้องให้จำเลยไม่ได้เพราะไม่พบจำเลยและจำเลยไม่มีภูมิลำเนาตามฟ้องก่อนวันนัดทนายโจทก์ยื่นคำร้องขอขยายระยะเวลาสืบหาภูมิลำเนาของจำเลยเพื่อดำเนินการต่อไปศาลชั้นต้นมีคำสั่งอนุญาตให้สืบหาภูมิลำเนาจำเลยได้จนถึงวันที่31มีนาคม2537ครั้นถึงวันนัดไต่สวนมูลฟ้องโจทก์ไม่มาศาลศาลชั้นต้นมีคำสั่งให้ยกฟ้องตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญามาตรา166วรรคหนึ่งดังนี้เห็นได้ว่าการที่ศาลชั้นต้นอนุญาตให้โจทก์สืบหาภูมิลำเนาจำเลยจนถึงวันที่31มีนาคม2537จึงมีเหตุทำให้โจทก์เชื่อว่าศาลไม่อาจทำการไต่สวนมูลฟ้องในวันนัดนั้นได้เพราะยังไม่ได้ส่งหมายนัดและสำเนาคำฟ้องให้จำเลยถือว่ามีเหตุสมควรให้ศาลยกคดีนี้ขึ้นไต่สวนมูลฟ้องใหม่ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญามาตรา166วรรคสอง

ย่อยาว

คดีสืบเนื่องมาจากโจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 177, 180, 264, 268ศาลชั้นต้นนัดไต่สวนมูลฟ้องวันที่ 25 มีนาคม 2537 เวลา13.30 นาฬิกา โจทก์ทราบนัดแล้วเมื่อถึงกำหนดวันและเวลานัดโจทก์ไม่มาศาลโดยไม่แจ้งเหตุขัดข้อง ศาลชั้นต้นจึงมีคำสั่งให้ยกฟ้อง ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญามาตรา 166 วรรคหนึ่ง ต่อมาวันที่ 30 มีนาคม 2537โจทก์ยื่นคำร้องว่าไม่สามารถมาศาลได้ทันตามกำหนดนัดประกอบกับโจทก์ยื่นคำร้องขออนุญาตขยายระยะเวลาสืบหาที่อยู่ของจำเลย ศาลอนุญาตจนถึงวันที่ 31 มีนาคม 2537โจทก์สำคัญผิดไปว่าศาลอนุญาตให้เลื่อนวันนัดไปเป็นวันที่31 มีนาคม 2537 จึงไม่ได้มาศาลตามนัด ขอให้ศาลยกคดีขึ้นไต่สวนมูลฟ้องใหม่
จำเลยยื่นคำคัดค้านว่า ไม่มีเหตุสมควรจะไต่สวนมูลฟ้องใหม่เพราะโจทก์ทราบวันนัดแล้ว หากโจทก์อ้างว่าติดธุระจำเป็นทนายโจทก์ก็สามารถยื่นคำร้องขอเลื่อนการพิจารณาได้เป็นการจงใจขาดนัดพิจารณา ขอให้ยกคำร้อง
ศาลชั้นต้นมีคำสั่งให้ยกคำร้อง
โจทก์อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์ภาค 1 พิพากษายืน
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า ทางไต่สวนได้ความว่า วันที่25 มีนาคม 2537 เวลา 13.30 นาฬิกา โจทก์ไม่ได้มาศาลตามกำหนดนัด เนื่องจากไปแต่งงานบุตรสาวที่จังหวัดสมุทรปราการโจทก์เดินทางกลับวันที่ 24 มีนาคม 2537 เวลา 4 นาฬิกาเมื่อรถยนต์แล่นผ่านจังหวัดสระบุรีได้ประมาณ 3 กิโลเมตรรถยนต์เกิดเสีย นายทำนองคนขับรถได้กลับไปซื้ออะไหล่ที่จังหวัดสระบุรีมาซ่อมเอง ใช้เวลาซ่อมประมาณ 5 ถึง 6 ชั่วโมงหลังจากซ่อมเสร็จก็เดินทางกลับจังหวัดบุรีรัมย์ถึงวันที่ 25 มีนาคม 2537 เวลาประมาณ 17 นาฬิกาและข้อเท็จจริงเบื้องต้นฟังได้ว่า ศาลชั้นต้นนัดไต่สวนมูลฟ้องวันที่ 25 มีนาคม 2537 เวลา 13.30 นาฬิกาแต่ปรากฏว่าส่งหมายนัดไต่สวนมูลฟ้องให้จำเลยไม่ได้เพราะไม่พบจำเลยและจำเลยไม่มีภูมิลำเนาตามฟ้อง ในวันที่ 16 มีนาคม 2537ทนายโจทก์ยื่นคำร้องขอขยายระยะเวลาสืบหาภูมิลำเนาของจำเลยเพื่อดำเนินการต่อไปภายใน 15 วันนับแต่วันยื่นคำร้องศาลชั้นต้นมีคำสั่งอนุญาตให้สืบหาภูมิลำเนาจำเลยได้จนถึงวันที่ 31 มีนาคม 2537 ครั้นถึงวันนัดไต่สวนมูลฟ้องโจทก์ไม่มาศาล ศาลชั้นต้นมีคำสั่งให้ยกฟ้องตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 166 วรรคหนึ่งในวันที่ 30 มีนาคม 2537 โจทก์ยื่นคำร้องขอให้ยกคดีชั้นไต่สวนมูลฟ้องต่อไป และในวันที่ 31 มีนาคม 2537 โจทก์ยื่นคำร้องขอแก้ไขคำฟ้องเกี่ยวกับภูมิลำเนาของจำเลย
คดีมีปัญหาวินิจฉัยตามฎีกาโจทก์ว่า มีเหตุสมควรที่จะยกคดีขึ้นไต่สวนมูลฟ้องใหม่หรือไม่ เห็นว่า การที่ศาลชั้นต้นอนุญาตให้โจทก์สืบหาภูมิลำเนาจำเลยจนถึงวันที่ 31 มีนาคม 2537จึงมีเหตุทำให้โจทก์เชื่อว่าศาลไม่อาจทำการไต่สวนมูลฟ้องในวันนัดนั้นได้ เพราะยังไม่ได้ส่งหมายนัดและสำเนาคำฟ้องให้จำเลยถือว่ามีเหตุสมควรตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 166 วรรคสอง
พิพากษากลับ ให้ศาลชั้นต้นนัดไต่สวนมูลฟ้องต่อไปแล้วมีคำสั่งหรือคำพิพากษาตามรูปคดี

Share