แหล่งที่มา : สำนักวิชาการ
ย่อสั้น
ศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำเลยจดทะเบียนเพิกถอนภาระจำยอมแก่ที่ดินโฉนดเลขที่ 106380 หากจำเลยไม่ปฏิบัติตามให้ถือเอาคำพิพากษาแทนการแสดงเจตนาของจำเลย คดีถึงที่สุดแล้ว ที่ดินดังกล่าวได้แบ่งแยกเป็นที่ดินโฉนดเลขที่ 9411 ที่ดินทั้งสองแปลงจึงเป็นที่ดินแปลงเดียวกัน ไม่ว่าที่ดินจะได้แบ่งแยกกันเมื่อใดก็ไม่ทำให้ผลของคดีเปลี่ยนแปลงไป การที่ศาลอุทธรณ์พิพากษากลับให้ศาลชั้นต้นมีคำสั่งแจ้งให้พนักงานที่ดินดำเนินการจดทะเบียนเพิกถอนภาะจำยอมแก่ที่ดินโฉนดเลขที่ 9411 จึงไม่เป็นการพิพากษาและบังคับคดีนอกไปจากคำฟ้องและไม่เป็นการแก้ไขคำพิพากษา กับไม่ต้องห้ามตาม ป.วิ.พ. มาตรา 143
ย่อยาว
คดีสืบเนื่องมาจากศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำเลยจดทะเบียนเพิกถอนภาระจำยอมแก่ที่ดินโฉนดเลขที่ 106380 ตำบลสีกัน อำเภอบางเขน (ตลาดขวัญ) กรุงเทพมหานคร หากจำเลยไม่ปฏิบัติตามให้ถือเอาคำพิพากษาแทนการแสดงเจตนาของจำเลย ยกฟ้องแย้ง
ต่อมาโจทก์ยื่นคำร้องขอให้ศาลชั้นต้นมีคำสั่งไปยังเจ้าพนักงานที่ดินให้จดทะเบียนเพิกถอนภาระจำยอมแก่ที่ดินโฉนดเลขที่ 9411 ตำบลทุ่งสีกัน อำเภอดอนเมือง กรุงเทพมหานคร เนื่องจากที่ดินโฉนดเลขที่ 106380 ที่ศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำเลยทะเบียนเพิกถอนภาระจำยอมได้มีการแบ่งแยกเป็นที่ดินโฉนดเลขที่ 9411 เมื่อโจทก์นำคำพิพากษาของศาลชั้นต้นไปจดทะเบียนเพิกถอนภาระจำยอมต่อเจ้าพนักงานที่ดินเพื่อบังคับตามคำพิพากษา แต่เจ้าพนักงานที่ดินไม่อาจดำเนินการให้ได้เพราะคำพิพากษาศาลชั้นต้นมิได้พิพากษาให้จดทะเบียนเพิกถอนภาระจำยอมแก่ที่ดินโฉนดเลขที่ 9411 โจทก์จึงขอให้ศาลชั้นต้นมีคำสั่งไปยังเจ้าพนักงานที่ดินให้จดทะเบียนเพิกถอนภาระจำยอมแก่ที่ดินดังกล่าว
ศาลชั้นต้นมีคำสั่งว่า ศาลมีคำพิพากษาให้จำเลยจดทะเบียนเพิกถอนภาระจำยอมแก่ที่ดินโฉนดเลขที่ 106380 ตามที่ระบุในฟ้องและคดีถึงที่สุดแล้ว จึงไม่มีอำนาจสั่งเปลี่ยนแปลงเลขที่โฉนดเสียใหม่ตามที่โจทก์ขอได้ ให้ยกคำร้อง
โจทก์อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษากลับ ให้ศาลชั้นต้นมีคำสั่งแจ้งให้เจ้าพนักงานที่ดินดำเนินการจดทะเบียนเพิกถอนภาระจำยอมแก่ที่ดินโฉนดเลขที่ 9411 ตำบลทุ่งสีกัน อำเภอดอนเมือง กรุงเทพมหานคร หากจำเลยไม่ปฏิบัติตามให้ถือเอาตามคำพิพากษาแทนการแสดงเจตนาของจำเลย
จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า “คดีนี้ศาลชั้นต้นพิจารณาแล้วพิพากษาให้จำเลยจดทะเบียนเพิกถอนภาระจำยอมแก่ที่ดินโฉนดเลขที่ 106380 หากจำเลยไม่ปฏิบัติตามให้ถือเอาตามคำพิพากษาแทนการแสดงเจตนาของจำเลย คดีถึงที่สุดแล้ว เมื่อข้อเท็จจริงปรากฏตามคำร้องของโจทก์ว่าที่ดินโฉนดเลขที่ 106380 ได้แบ่งแยกเป็นที่ดินโฉนดเลขที่ 9411 ตามสำเนาโฉนดที่ดินที่เจ้าหน้าที่บริหารงานที่ดินรับรองถูกต้องแนบท้ายคำร้องโจทก์ ทั้งจำเลยมิได้โต้แย้งไว้ในคำแก้อุทธรณ์ ประกอบกับเมื่อพิจารณาสำเนาโฉนดที่ดินเลขที่ 106380 เอกสารหมาย จ.3 แล้วปรากฏด้านหลังโฉนดมีข้อความว่าได้มีการแบ่งกรรมสิทธิ์รวม เป็นโฉนดที่ดินใหม่ เลขที่ 9411 และที่ดินแปลงที่แยกออกไปยังมีภาระจำยอมครอบติดอยู่ ข้อเท็จจริงจึงรับฟังได้ว่าที่ดินโฉนดเลขที่ 106380 ได้ถูกแบ่งแยกเป็นที่ดินโฉนดเลขที่ 9411 จริง ที่ดินทั้งสองแปลงจึงเป็นที่ดินแปลงเดียวกัน ที่จำเลยฎีกาว่า ที่ดินดังกล่าวได้ถูกแบ่งแยกตั้งแต่ก่อนฟ้องแล้วเป็นเวลาถึง 2 ปี นั้น ไม่ว่าที่ดินจะได้แบ่งแยกกันเมื่อใดก็ไม่ทำให้ผลของคดีเปลี่ยนแปลงไป เพราะปัญหาดังกล่าวไม่เป็นประเด็นข้อพิพาทแห่งคดี การที่ศาลอุทธรณ์พิพากษากลับให้ศาลชั้นต้นมีคำสั่งแจ้งให้เจ้าพนักงานที่ดินดำเนินการจดทะเบียนเพิกถอนภาระจำยอมแก่ที่ดินโฉนดเลขที่ 9411 ตำบลทุ่งสีกัน อำเภอดอนเมือง กรุงเทพมหานคร จึงไม่เป็นการพิพากษาและบังคับคดีนอกไปจากคำฟ้องและไม่เป็นการแก้ไขคำพิพากษา กับไม่ต้องห้ามตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 13 ศาลฎีกาเห็นพ้องด้วยกับคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ ฎีกาของจำเลยฟังไม่ขึ้น”
พิพากษายืน