แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
สามีภรรยาทะเลาะกันแล้ว สามีใช้มีดฟันภรรยา ภรรยาร้องให้ชู้ช่วย.ชู้จึงเข้ามาเอามีดฟันสามีที่ศีรษะ 3 ทีติดกันโดยไม่ยั้งมือซึ่งแต่ละแผลแตกแยกถึงมันสมองไหลอาจถึงตายในทันทีได้ทุกแผล และโดยไม่ปรากฏว่าระหว่างการฟันครั้งที่ 2-3 นั้นสามียังทำร้ายภรรยาอยู่ต่อไปหรือไม่ เช่นนี้ ถือว่า การกระทำของชู้เป็นการป้องกันภรรยา แต่เป็นการป้องกันเกินสมควรแก่เหตุ
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยตามกฎหมายลักษณะอาญา มาตรา 249, 72
ศาลชั้นต้นพิพากษาลงโทษจำเลยตามฟ้อง
ศาลอุทธรณ์เห็นว่า การกระทำของจำเลยเป็นการป้องกันพอสมควรแก่เหตุ พิพากษากลับให้ยกฟ้อง
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาเห็นว่า ข้อเท็จจริงปรากฏว่า นายเปลื้องกับนางพันเกิดทะเลาะกัน เพราะนางพันห้ามมิให้นายเปลื้องขึ้นเรือน และนายเปลื้องได้ใช้มีดพร้าฟันนางพันหลายที แม้จำเลยจะเป็นชู้กับนางพันก็ตามแต่ขณะเกิดเหตุแรกนั้นจำเลยอยู่ภายในห้อง มิได้แสดงตนออกมาทะเลาะทุ่มเถียงด้วย นายเปลื้องเองเพิ่งกลับมา ยังไม่รู้ว่าจำเลยอยู่ ณ ที่นั่น ต่อเมื่อนางพันถูกฟันแล้วร้องเรียกให้จำเลยช่วยจำเลยจึงออกมาฟันนายเปลื้องในขณะนั้นเอง จะฟังว่าจำเลยทำร้ายนายเปลื้องเพราะความโกรธที่นายเปลื้องมาฟันชู้รักของตนดังที่โจทก์ฎีกาขึ้นมายังไม่ได้ ศาลฎีกาเห็นพ้องกับศาลอุทธรณ์ว่า จำเลยได้ทำร้ายนายเปลื้องทั้งนี้โดยเจตนาจะป้องกันนางพันตามคำที่เรียกร้องให้ช่วย แต่การที่จำเลยเข้าฟันนายเปลื้องที่ศีรษะถึง 3 ทีติดกันโดยไม่ยั้งมือ ซึ่งแต่ละแผลแตกแยกถึงมันสมองไหล อาจถึงตายในทันทีได้ทุกแผล และโดยไม่ปรากฏว่าระหว่างการฟันครั้งที่ 2-3 นั้นนายเปลื้องยังคงทำร้ายนางพันอยู่ต่อไปอีกหรือไม่เช่นนี้ จึงเป็นการป้องกันเกินสมควรแก่เหตุ จึงพิพากษาแก้ให้จำคุกจำเลย 6 ปีตามมาตรา 249 ประกอบด้วยมาตรา 53 เพิ่มโทษตามมาตรา 72 อีก 1 ใน 3 เป็นจำคุก 8 ปี