คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 18235/2557

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

แม้สิทธิในการได้รับค่าเสียหายเบื้องต้นตาม พ.ร.บ.คุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถ พ.ศ.2535 มาตรา 20 เป็นสิทธิทางแพ่งที่ผู้ประสบภัยหรือทายาทโดยธรรมของผู้ประสบภัยจะได้รับเพื่อเยียวยาบรรเทาความเดือดร้อนเบื้องต้นดังที่ศาลอุทธรณ์ภาค 1 วินิจฉัยมาแล้วก็ตาม แต่มาตรา 25 วรรคสอง บัญญัติไว้ชัดแจ้งว่า ให้ถือว่าค่าเสียหายเบื้องต้นเป็นส่วนหนึ่งของเงินค่าสินไหมทดแทนตาม ป.พ.พ. และมาตรา 4 บัญญัติว่า ค่าเสียหายเบื้องต้น หมายความว่า ค่ารักษาพยาบาล ค่าใช้จ่ายอันจำเป็นเกี่ยวกับการรักษาพยาบาล ค่าปลงศพ ค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับการจัดการศพ รวมทั้งค่าเสียหายและค่าใช้จ่ายที่จำเป็นอย่างอื่นเพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของผู้ประสบภัยในเบื้องต้น… เมื่อคดีนี้โจทก์ฟ้องขอให้บังคับจำเลยชดใช้ค่าสินไหมทดแทนเฉพาะค่าปลงศพและค่าใช้จ่ายอันจำเป็นเกี่ยวกับการจัดการศพ ช. กับค่าเสียหายของรถจักรยานสองล้อเท่านั้น โดยไม่ปรากฏว่าโจทก์เรียกร้องค่าเสียหายอย่างอื่นหรือต้องนำค่าเสียหายเบื้องต้นไปชดใช้ค่าเสียหายอย่างอื่นอันเกิดขึ้นจากการที่จำเลยกระทำละเมิดจนเป็นเหตุให้นายชิ้นถึงแก่ความตาย จึงต้องนำเงินค่าเสียหายเบื้องต้น 200,000 บาท ที่โจทก์ได้รับไปแล้วและถือว่าเป็นค่าเสียหายส่วนหนึ่งตาม ป.พ.พ. ไปหักออกจ่าค่าเสียหายดังกล่าวด้วย และเมื่อข้อเท็จจริงฟังเป็นยุติได้ว่า เงินค่าเสียหายเบื้องต้นที่โจทก์ได้รับไปแล้วมีจำนวนเท่ากับค่าปลงศพและค่าใช้จ่ายอันจำเป็นเกี่ยวกับการจัดการศพที่ศาลล่างทั้งสองกำหนดให้จำเลยรับผิดต่อโจทก์จำเลยจึงไม่ต้องรับผิดชำระค่าปลงศพและค่าใช้จ่ายอันจำเป็นเกี่ยวกับการจัดการศพแก่โจทก์อีก

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า ขอให้บังคับจำเลยชำระเงินจำนวน 401,054 บาท พร้อมดอกเบี้ยอัตราร้อยละ 7.5 ต่อปี ของต้นเงิน 360,800 บาท นับถัดจากวันฟ้องเป็นต้นไปจนกว่าจะชำระเสร็จแก่โจทก์
จำเลยให้การขอให้ยกฟ้อง
ศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำเลยชำระเงิน 202,000 บาท พร้อมดอกเบี้ยอัตราร้อยละ 7.5 ต่อปี นับแต่วันที่ 20 ธันวาคม 2553 เป็นต้นไปจนกว่าจะชำระเสร็จแก่โจทก์ กับให้จำเลยใช้ค่าฤชาธรรมเนียมแทนโจทก์ โดยกำหนดค่าทนายความ 6,000 บาท
จำเลยอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์ภาค 1 พิพากษายืน ให้จำเลยใช้ค่าฤชาธรรมเนียมชั้นอุทธรณ์แทนโจทก์ โดยกำหนดค่าทนายความ 5,000 บาท
จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า ข้อเท็จจริงที่คู่ความมิได้โต้แย้งกันในชั้นนี้รับฟังเป็นยุติได้ในเบื้องต้นว่า เมื่อวันที่ 20 ธันวาคม 2553 จำเลยขับรถยนต์โดยประมาทชนนายชิ้น บิดาโจทก์ถึงแก่ความตาย และรถจักรยานสองล้อของนายชิ้นได้รับความเสียหายเป็นเงิน 2,000 บาท โจทก์ได้จัดการงานศพนายชิ้น โดยโจทก์ได้รับเงินค่าเสียหายเบื้องต้นจากกองทุนผู้ประสบภัยจากรถ ตามพระราชบัญญัติคุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถ พ.ศ.2535 จำนวน 200,000 บาท และได้รับเงินที่จำเลยนำไปวางศาลในคดีอาญา จำนวน 120,000 บาท สำหรับค่าเสียหายรถจักรยานสองล้อที่ศาลชั้นต้นกำหนดให้จำเลยรับผิดเป็นเงิน 2,000 บาท นั้น เป็นอันยุติไปโดยคู่ความมิได้อุทธรณ์ฎีกา คงมีปัญหาต้องวินิจฉัยตามฎีกาของจำเลยว่า จำเลยต้องรับผิดใช้ค่าสินไหมทดแทนเป็นค่าปลงศพและค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับการจัดการศพนายชิ้นหรือไม่ เพียงใด เห็นว่า แม้สิทธิในการได้รับค่าเสียหายเบื้องต้น ตามพระราชบัญญัติคุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถ พ.ศ.2535 มาตรา 20 เป็นสิทธิทางแพ่งที่ผู้ประสบภัยหรือทายาทโดยธรรมของผู้ประสบภัยจะได้รับเพื่อเยียวยาบรรเทาความเดือดร้อนเบื้องต้นดังที่ศาลอุทธรณ์ภาค 1 วินิจฉัยมาแล้วก็ตาม แต่มาตรา 25 วรรคสอง บัญญัติไว้ชัดแจ้งว่า ให้ถือว่าค่าเสียหายเบื้องต้นเป็นส่วนหนึ่งของเงินค่าสินไหมทดแทนตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ และมาตรา 4 บัญญัติว่า ค่าเสียหายเบื้องต้น หมายความว่า ค่ารักษาพยาบาล ค่าใช้จ่ายอันจำเป็นเกี่ยวกับการรักษาพยาบาล ค่าปลงศพ ค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับการจัดการศพ รวมทั้งค่าเสียหายและค่าใช้จ่ายที่จำเป็นอย่างอื่นเพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของผู้ประสบภัยในเบื้องต้น… เมื่อคดีนี้โจทก์ฟ้องขอให้บังคับจำเลยชดใช้ค่าสินไหมทดแทนเฉพาะค่าปลงศพและค่าใช้จ่ายอันจำเป็นเกี่ยวกับการจัดการศพนายชิ้น กับค่าเสียหายของรถจักรยานสองล้อเท่านั้น โดยไม่ปรากฏว่าโจทก์เรียกร้องค่าเสียหายอย่างอื่นหรือต้องนำค่าเสียหายเบื้องต้นไปชดใช้ค่าเสียหายอย่างอื่นอันเกิดขึ้นจากการที่จำเลยกระทำละเมิดจนเป็นเหตุให้นายชิ้นถึงแก่ความตาย จึงต้องนำเงินค่าเสียหายเบื้องต้น 200,000 บาท ที่โจทก์ได้รับไปแล้วและถือว่าเป็นค่าเสียหายส่วนหนึ่งตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ไปหักออกจากค่าเสียหายดังกล่าวด้วย และเมื่อข้อเท็จจริงฟังเป็นยุติได้ว่า เงินค่าเสียหายเบื้องต้นที่โจทก์ได้รับไปแล้วมีจำนวนเท่ากับค่าปลงศพและค่าใช้จ่ายอันจำเป็นเกี่ยวกับการจัดการศพที่ศาลล่างทั้งสองกำหนดให้จำเลยรับผิดต่อโจทก์จำเลยจึงไม่ต้องรับผิดชำระค่าปลงศพและค่าใช้จ่ายอันจำเป็นเกี่ยวกับการจัดการศพแก่โจทก์อีก ที่ศาลอุทธรณ์ภาค 1 พิพากษามานั้น ไม่ต้องด้วยความเห็นของศาลฎีกา กรณีไม่จำต้องวินิจฉัยฎีกาของจำเลยต่อไปว่าศาลล่างทั้งสองกำหนดค่าสินไหมทดแทนเป็นค่าปลงศพ 200,000 บาท สูงเกินไปหรือไม่
พิพากษาแก้เป็นว่า จำเลยไม่ต้องรับผิดใช้ค่าปลงศพ จำนวน 200,000 บาท พร้อมดอกเบี้ยแก่โจทก์ นอกจากที่แก้ให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ภาค 1 ค่าฤชาธรรมเนียมชั้นฎีกาให้เป็นพับ

Share