คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 18225/2557

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

เมื่อผู้ร้องไม่นำเงินค่าขึ้นศาลชั้นฎีกามาชำระให้ครบถ้วนภายในเวลาที่ศาลชั้นต้นกำหนด จึงเป็นกรณีที่ผู้ร้องเพิกเฉยไม่ดำเนินคดีภายในระยะเวลาตามที่ศาลชั้นต้นกำหนด ถือได้ว่าผู้ร้องทิ้งอุทธรณ์ตาม ป.วิ.พ. มาตรา 174 (2) ประกอบด้วยมาตรา 246, 247

ย่อยาว

ผู้ร้องยื่นคำร้องขอให้เพิกถอนคำชี้ขาดของอนุญาโตตุลาการดังกล่าว
ผู้คัดค้านให้การขอให้ยกคำร้อง
ศาลแพ่งมีคำสั่งยกคำร้อง ค่าฤชาธรรมเนียมให้เป็นพับ
ผู้ร้องอุทธรณ์ต่อศาลฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า คดีนี้มีทุนทรัพย์พิพาทกันในชั้นฎีกาตามจำนวนค่าสินไหมทดแทนที่อนุญาโตตุลาการชี้ขาดให้ผู้ร้องต้องรับผิดต่อผู้คัดค้าน แต่ผู้ร้องยื่นอุทธรณ์โดยเสียค่าขึ้นศาลชั้นฎีกาอย่างคดีไม่มีทุนทรัพย์เพียง 200 บาท ซึ่งไม่ถูกต้อง ศาลฎีกาจึงมีคำสั่งให้ศาลชั้นต้นเรียกค่าขึ้นศาลเพิ่มเติมตามจำนวนทุนทรัพย์ที่พิพาทกันในชั้นฎีกาให้ครบถ้วนภายในระยะเวลาที่ศาลชั้นต้นกำหนด หากผู้ร้องไม่ชำระให้ส่งสำนวนและคำพิพากษาศาลฎีกาคืนศาลฎีกาเพื่อดำเนินการต่อไป ปรากฏว่าศาลชั้นต้นได้มีหมายนัดแจ้งให้ผู้ร้องนำเงินค่าขึ้นศาลชั้นฎีกามาวางเพิ่ม แต่ผู้ร้องไม่นำเงินค่าขึ้นศาลชั้นฎีกาที่ยังขาดมาชำระต่อศาลชั้นต้นภายในกำหนด ศาลชั้นต้นจึงงดอ่านคำพิพากษาศาลฎีกา และส่งสำนวนพร้อมด้วยคำพิพากษาของศาลฎีกาคืนศาลฎีกาเพื่อดำเนินการต่อไป
พิเคราะห์แล้วเห็นว่า เมื่อผู้ร้องไม่นำเงินค่าขึ้นศาลชั้นฎีกามาชำระให้ครบถ้วนภายในเวลาที่ศาลชั้นต้นกำหนด จึงเป็นกรณีที่ผู้ร้องเพิกเฉยไม่ดำนินคดีภายในระยะเวลาตามที่ศาลชั้นต้นกำหนด ถือได้ว่าผู้ร้องทิ้งอุทธรณ์ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 174 (2) ประกอบด้วยมาตรา 246, 247
ให้จำหน่ายคดีออกจากสารบบความของศาลฎีกา ค่าฤชาธรรมเนียมชั้นฎีกาให้เป็นพับ

Share