แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
โจทก์ฟ้องหาว่า จำเลยใช้กำลังข่มขืนขู่เข็ญขืนใจให้ผู้เสียหายสัญญาจะส่งเงินให้แก่จำเลยกับพวก ขอให้ลงโทษฐานกรรโชก ทางพิจารณาได้ความว่า ผู้เสียหายถูกบังคับให้เงินทันที จึงมิใช่เป็นเรื่องบังคับให้สัญญาว่าจะส่งทรัพย์ตามความหมายของกรรโชก จึงลงโทษจำเลยฐานกรรโชกไม่ได้
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องว่า จำเลยสมคบกันบังคับให้นายผลกับพวกโดยใช้กำลังข่มขืนและขู่เข็ญขืนใจให้นายผลกับพวกส่งเงินให้แก่จำเลยคนละ 120 บาทรวม 360 บาทให้แก่จำเลย กับพวก มิฉะนั้นจะทำร้าย นายผลมีความกลัวจึงรับสัญญาจะให้เงินแก่พวกจำเลยตามที่บังคับขอให้ลงโทษฐานกรรโชก
จำเลยปฏิเสธ
ศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์เห็นว่ารูปคดีเป็นเรื่องชิงทรัพย์ไม่เข้าองค์ความผิดฐานกรรโชก จะลงโทษจำเลยไม่ได้ เป็นการเกินคำขอ และโจทก์ไม่ประสงค์ให้ลงโทษพิพากษายกฟ้อง
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาเห็นว่า ศาลล่างทั้งสองฟังข้อเท็จจริงว่า นายผลมิได้รับปากว่าจะให้ และเป็นการบังคับทันที มิใช่เป็นเรื่องสัญญาว่าจะส่งทรัพย์ตามความหมายของความผิดฐานกรรโชกจะลงโทษจำเลยฐานนี้ไม่ได้
พิพากษายืน