คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1817/2493

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

เมื่อศาลมีคำสั่งให้เพิกถอนหนังสือสำคัญและรายการจดทะเบียนตามพ.ร.บ.ออกโฉนดที่ดิน(ฉบับที่ 7) พ.ศ.2486 มาตรา 12 ก็ต้องถือว่ารายการจดทะเบียนนั้นมิได้มีอยู่ ผู้ใดจะมาอ้างทรัพย์สิทธิอย่างใด เนื่องมาจากการจดทะเบียนนั้นมิได้

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า โฉนดที่ดินที่ 858 ของโจทก์หายไปพร้อมกับแบบใบมอบฉันทะที่โจทก์ลงนามไว้ ต่อมาปรากฏว่าจำเลยที่ 1 และที่ 2 ได้สมคบกับกรอกข้อความในใบมอบฉันทะ แล้วได้ทำการให้พนักงานเจ้าหน้าที่หลงเชื่อ จดแก้ทะเบียนเป็นจำเลยที่ 1 โอนขายให้จำเลยที่ 2 โจทก์จึงได้ทำการอายัติที่ดินแปลงนี้ไว้ต่อหอทะเบียนที่ดินครั้นในวันรุ่งขึ้นจำเลยที่ 2 ได้ฉวยโอกาสทำการโอนกรรมสิทธิ์ขายฝากที่ดินแปลงนั้นให้แก่จำเลยที่ 3 เป็นการสมยอมต่อไปอีกโดยพนักงานเจ้าหน้าที่ได้ทำการโอนแก้ทะเบียนให้ไปโดยมิชอบด้วยกฎหมาย จึงขอให้เพิกถอนนิติกรรมระหว่างจำเลยที่ 1, 2, 3

ข้อเท็จจริงปรากฏในสำนวนว่า ก่อนที่ศาลแพ่งเริ่มทำการสืบพยานเจ้าพนักงานที่ดินจังหวัดพระนครธนบุรีโดยทางพนักงานอัยการกรมอัยการได้ยื่นคำร้องต่อศาลแขวงพระนครเหนือ ขอให้สั่งเพิกถอนรายการจดทะเบียนสัญญาขายฝากระหว่างจำเลยที่ 2 และที่ 3 เสีย ตามบทบัญญัติแห่งมาตรา 7 ทวิ แห่งพระราชบัญญัติออกโฉนดที่ดิน (ฉบับที่ 2) ซึ่งได้แก้ไขเพิ่มเติมโดยมาตรา 12 แห่ง พระราชบัญญัติ (ฉบับที่ 7) พ.ศ. 2486 โดยอ้างว่า ที่ดินนั้นได้ถูกอายัติอยู่ การจดทะเบียนได้กระทำโดยผิดหลงของเจ้าพนักงาน

ศาลแขวงพระนครเหนือได้ประกาศโฆษณาตามระเบียบแล้ว ไต่สวนได้ความจริงตามคำร้อง จึงมีคำสั่งว่าการจดทะเบียนนิติกรรมขายฝากดังกล่าวเป็นการกระทำโดยผิดหลงของเจ้าพนักงาน ให้เพิกถอนหนังสือสำคัญและรายการจดทะเบียนนั้นเสีย

ต่อมาศาลแพ่งได้พิจารณาคดีนี้แล้ว พิพากษายกฟ้อง

โจทก์อุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้ให้เพิกถอนนิติกรรมการทะเบียนและการโอนกรรมสิทธิ์ที่ดินพิพาทระหว่างจำเลยที่ 1 กับที่ 2 และระหว่างจำเลยที่ 2 กับที่ 3 ให้กลับคืนสู่ฐานะเดิม

จำเลยที่ 3 ผู้เดียวฎีกา

ศาลฎีกาเห็นว่า การจดทะเบียนต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ระหว่างจำเลยที่ 2 และที่ 3 นั้น ได้ถูกเพิกถอนเสียแล้ว โดยคำสั่งของศาลแขวงพระนครเหนือ และขณะที่ศาลแพ่งทำการพิจารณานั้น ต้องถือว่ารายการจดทะเบียนนั้นมิได้มีที่อยู่ เมื่อเป็นดังนี้จำเลยที่ 3 ก็ไม่มีทางที่จะอ้างทรัพย์สิทธิอย่างใดในที่ดินพิพาทได้ จำเลยที่ 3 ไม่มีทางชนะคดีนี้

จึงพิพากษายืน

Share