แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 88 บัญญัติให้ยื่นบัญชีระบุพยานต่อศาลก่อนวันสืบพยานไม่น้อยกว่า 3 วันนั้นหมายถึงก่อนวันที่ศาลเริ่มต้นทำการสืบพยานจริง ๆ ไม่ใช่หมายถึงวันนัดสืบพยานครั้งแรก
ศาลชั้นต้นนัดสืบพยานจำเลยตามที่จำเลยแถลงรับนำสืบก่อนในวันที่ 6 สิงหาคม 2513 ครั้นถึงวันนัด จำเลยยื่นคำร้องขอระบุพยานเพิ่มเติม และในวันเดียวกันนั้นศาลชั้นต้นเห็นควรให้เลื่อนคดีไปจึงให้เลื่อนคดีไปสืบพยานจำเลยในวันที่ 20 สิงหาคม 2513 โดยยังมิได้สั่งว่ารับหรือไม่รับบัญชีระบุพยานฉบับลงวันที่ 6 สิงหาคม 2513 ของจำเลย ครั้นวันที่ 17 สิงหาคม 2513 จำเลยยื่นคำร้องระบุพยานโดยอ้างว่าพลั้งเผลอไม่ได้ยื่นบัญชีระบุพยานก่อนวันสืบพยาน 3 วันขอให้รับบัญชีระบุพยานจำเลยไว้ ดังนี้ การที่จำเลยยื่นบัญชีระบุพยานต่อศาลในวันที่ 6 สิงหาคม 2513 นั้น แม้จำเลยจะยื่นคำร้องว่าเป็นบัญชีระบุพยานเพิ่มเติมก็ตาม แท้จริงเป็นการระบุพยานครั้งแรกตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 88 วรรคแรก นั่นเองซึ่งจำเลยมีสิทธิยื่นบัญชีระบุพยานต่อศาลโดยไม่ต้องทำเป็นคำร้องเพราะวันนั้นศาลไม่ได้เริ่มต้นทำการสืบพยานจริง ๆ ส่วนการที่จำเลยยื่นบัญชีระบุพยานฉบับลงวันที่17 สิงหาคม 2513 โดยทำเป็นคำร้องนั้น แท้จริงก็เป็นการยื่นบัญชีระบุพยานเพิ่มเติมตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 88 วรรคสองนั่นเองซึ่งจำเลยมีสิทธิยื่นได้โดยไม่ต้องทำเป็นคำร้อง ฉะนั้น บัญชีระบุพยานจำเลยฉบับลงวันที่ 17 สิงหาคม 2513 จึงเป็นบัญชีระบุพยานที่ได้ยื่นต่อศาลไว้โดยชอบแล้ว
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องว่า จำเลยจัดสรรที่ดินขายเป็นแปลง ๆ โดยกำหนดตัดถนนซอยออกสู่ถนนดาวดึงษ์ โจทก์ทุกคนต่างซื้อที่ดินจากจำเลยตามสัญญาซื้อขายท้ายฟ้อง จำเลยได้ทำถนนซอยตัดใหม่เป็นแนวทางไว้แล้ว แต่มิได้ทำให้เสร็จ กลับปิดทางเสีย ขอให้บังคับจำเลยจัดการทำซอย หากไม่สามารถทำได้ ก็ให้แบ่งที่และรื้อถอนสิ่งปลูกสร้างที่กีดขวางให้พ้นทางและห้ามจำเลยปิดกั้นแนวทางถนนซอยเดิม
จำเลยให้การและฟ้องแย้งว่า จำเลยไม่เคยจัดสรรที่ดินพิพาทให้โจทก์ที่ 1, 2 แต่หากมีแม่ชีเทียบแบ่งซื้อจากจำเลย แล้วนำเอาชื่อโจทก์ที่ 1, 2 เป็นผู้ซื้อแทน โจทก์ที่ 1, 2 ไม่มีอำนาจฟ้องจำเลยมีสิทธิเลิกสัญญาและขอคืนเงินให้โจทก์ที่ 1, 2 ทั้งนี้เพราะแม่ชีเทียนมิได้นำที่ดินไปทำประโยชน์ทางศาสนาตามที่ตกลงกัน จำเลยไม่เคยรับว่าจะเปิดทางให้ จำเลยไม่เคยเปิดทาง ปิดทางดังฟ้องขอให้ศาลพิพากษาว่าสัญญาที่โจทก์ที่ 1, 2 ทำไว้กับจำเลยเป็นโมฆะ ให้โจทก์ที่ 1, 2 รับเงินคืนไปแล้วรื้อสิ่งปลูกสร้างออกไปจากที่พิพาท
โจทก์ที่ 1, 2 ให้การแก้ฟ้องแย้งว่า จำเลยไม่มีอำนาจฟ้องแย้งไม่มีสิทธิเลิกสัญญาซื้อขาย
ศาลชั้นต้นพิจารณาแล้วพิพากษาให้จำเลยจัดทำถนนซอยกว้าง 6 ศอกตามหมายสีเหลืองในแผนที่พิพาทของศาล ห้ามจำเลยปิดกั้นทางพิพาทถ้าไม่ยอมกระทำ ให้โจทก์ทำตามคำแถลงของโจทก์
จำเลยอุทธรณ์ และอุทธรณ์ด้วยว่า การที่ศาลไม่รับบัญชีระบุพยานจำเลย อีกทั้งไม่อนุญาตให้จำเลยเลื่อนคดีไป แล้วงดสืบพยานจำเลยนั้น เป็นการไม่ชอบ
ศาลอุทธรณ์พิพากษาให้ยกคำพิพากษาศาลชั้นต้น ให้ศาลชั้นต้นสืบพยานต่อไปแล้วพิพากษาใหม่ตามรูปคดี
โจทก์ฎีกา
ในปัญหาที่ว่า จำเลยไม่ได้ยื่นบัญชีระบุพยานต่อศาลก่อนวันสืบพยาน 3 วันจริงหรือไม่ ข้อเท็จจริงได้ความว่า ศาลชั้นต้นนัดสืบพยานจำเลยตามที่จำเลยแถลงรับนำสืบก่อนในวันที่ 6 สิงหาคม 2513 ครั้นถึงวันนัดจำเลยยื่นคำร้องขอระบุพยานเพิ่มเติม และในวันเดียวกันนั้น ศาลชั้นต้นเห็นควรให้เลื่อนคดีไป จึงให้เลื่อนคดีไปสืบพยานจำเลยในวันที่ 20 สิงหาคม 2513 โดยยังมิได้สั่งว่ารับหรือไม่รับบัญชีระบุพยานฉบับลงวันที่ 6 สิงหาคม 2513 ของจำเลย ครั้นวันที่ 17 สิงหาคม 2513 จำเลยยื่นคำร้องระบุพยานโดยอ้างว่าพลั้งเผลอไม่ได้ยื่นบัญชีระบุพยานก่อนวันสืบพยาน 3 วัน ขอให้รับบัญชีระบุพยานจำเลยไว้ ศาลชั้นต้นมีคำสั่งในวันที่ 20 สิงหาคม 2513 ไม่รับบัญชีระบุพยานจำเลยฉบับลงวันที่ 17 สิงหาคม 2513 และสั่งงดสืบพยานจำเลย
ศาลฎีกาเห็นว่า ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 88บัญญัติให้ยื่นบัญชีระบุพยานต่อศาลก่อนวันสืบพยานไม่น้อยกว่า 3 วัน นั้น หมายถึงก่อนวันที่ศาลเริ่มต้นทำการสืบพยานจริง ๆ ไม่ใช่หมายถึงวันนัดสืบพยานครั้งแรก คดีนี้ แม้ศาลนัดสืบพยานจำเลยครั้งแรกในวันที่ 6 สิงหาคม 2513 แต่แล้วศาลได้สั่งเลื่อนคดีไปเองเป็นวันที่ 20 สิงหาคม 2513 ฉะนั้น การที่จำเลยยื่นบัญชีระบุพยานต่อศาลในวันที่ 6 สิงหาคม 2513 นั้น แม้จำเลยจะยื่นคำร้องว่าเป็นบัญชีระบุพยานเพิ่มเติมก็ตาม แต่พฤติการณ์ที่แท้จริงแล้วหาใช่เป็นการระบุพยานเพิ่มเติมไม่แต่หากเป็นการระบุพยานครั้งแรกนั่นเอง ซึ่งจำเลยมีสิทธิยื่นต่อศาลโดยไม่ต้องทำเป็นคำร้องอย่างใด เพราะวันนั้นศาลไม่ได้เริ่มต้นทำการสืบพยานจริง จึงไม่ถือเป็นวันสืบพยาน ส่วนการที่จำเลยยื่นบัญชีระบุพยานลงวันที่ 20 สิงหาคม 2513 โดยทำเป็นคำร้องนั้น ก็เป็นการที่จำเลยยื่นบัญชีระบุพยานเพิ่มเติมตามมาตรา 88 วรรค 2 แห่งประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งนั่นเองจำเลยมีสิทธิยื่นได้โดยไม่ต้องทำเป็นคำร้อง ฉะนั้น บัญชีระบุพยานจำเลยฉบับวันที่ 17 สิงหาคม 2513 จึงเป็นบัญชีระบุพยานที่ยื่นต่อศาลไว้โดยชอบแล้ว
พิพากษายืน