คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1812/2500

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

คดีก่อนโจทก์ฟ้องว่า จำเลยรบกวนสิทธิ ละเมิดสิทธิ ขอให้ห้ามมิให้จำเลยและบริวารเกี่ยวข้องหรือขัดขวางในการที่โจทก์จะครอบครองทรัพย์ แต่คดีหลังโจทก์ฟ้องเรื่องผิดสัญญาและเรียกค่าเสียหายตามสัญญาที่ทำกันไว้เกี่ยวกับทรัพย์รายเดียวกันนั้น ไม่เกี่ยวกับคดีหรือประเด็นที่ศาลได้วินิจฉัยชี้ขาดไว้ในคดีก่อน กรณีไม่ต้องด้วย มาตรา 144 ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง ไม่เป็นฟ้องซ้ำ
ในคดีหลังโจทก์กล่าวฟ้องว่านางอ่าง (ซึ่งเป็นตัวความในคดีก่อน) เป็นผู้ทำสัญญากับโจทก์ โดยโจทก์ไม่บรรยายฟ้องว่า ในคดีก่อนนายสว่างเป็นทนายแก้ต่างนางอ่างและได้ทำสัญญาแทนนางอ่าง แต่ปรากฏตามใบแต่งทนายที่นางอ่างได้แต่งให้นายสว่างเป็นทนายว่าความแทนในคดีก่อน ให้อำนาจแก่นายสว่างทนายที่จะดำเนินกระบวนพิจารณาแทนในทางจำหน่ายสิทธิได้ด้วยตาม ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 62 เมื่อเป็นเช่นนี้นายสว่างจึงมีอำนาจทำความตกลงยอมใช้ค่าเสียหายแทนนางอ่างได้เสมือนว่านางอ่างเป็นผู้ตกลงเอง โจทก์ไม่จำเป็นที่จะต้องบรรยายความข้อนี้ลงในฟ้องให้ยืดยาว ฟ้องเช่นนี้ไม่เคลือบคลุม

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่านางอ่างขายฝากตึกแถว 11 ห้องไว้กับโจทก์ถึงกำหนดไม่ไถ่ และไม่ยอมมอบตึกแถวให้โจทก์ โจทก์ฟ้องขับไล่นางอ่าง ระหว่างพิจารณาโจทก์กับนางอ่างตกลงกันว่านางอ่างจะขออยู่ในตึกแถว 2 ห้องที่โจทก์ฟ้องต่อไป ถ้านางอ่างแพ้คดีโจทก์นางอ่างจะใช้ค่าเสียหายให้โจทก์เดือนละ 200 บาท คดีอยู่ระหว่างชั้นศาลฎีกา นางอ่างถึงแก่กรรม นางแก้วจำเลยที่ 1 ผู้เป็นบุตรเป็นผู้รับมรดกความ เมื่อนางอ่างตายแล้ว บริวารของนางอ่างยังคงอยู่อาศัยในห้องนั้นต่อมา ในที่สุดศาลฎีกาได้พิพากษาให้โจทก์ชนะคดี คือคดีแพ่งแดงที่ 48/2493 นางแก้วจำเลยได้ทราบคำพิพากษาศาลฎีกาแล้ว จำเลยทั้งสามเป็นผู้รับมรดกนางอ่าง จึงขอให้จำเลยใช้ค่าเสียหายที่นางอ่างจะต้องใช้ให้แก่โจทก์ตามที่ตกลงกันไว้ในคดีแพ่งแดงที่ 48/2493 เป็นเวลา 5 ปี 11 เดือนเป็นค่าเสียหาย 14,200 บาท

จำเลยที่ 2-3 ให้การต่อสู้ว่า ฟ้องโจทก์เป็นโมฆะ ขัดต่อศีลธรรม ทั้งฟ้องซ้ำ ฟ้องเคลือบคลุม และขาดอายุความ นางอ่างไม่ใช่คู่สัญญากับโจทก์

จำเลยที่ 1 ไม่ยื่นคำให้การ และไม่มาฟังการพิจารณา

ศาลฎีกาพิพากษายืนตามศาลล่างทั้งสอง ให้จำเลยเอามรดกนางอ่างใช้หนี้ให้โจทก์เป็นเงิน 14,200 บาท

คดีนี้จำเลยที่ 2-3 ฎีกาในปัญหาข้อกฎหมาย 2 ข้อ คือ1. โจทก์ฟ้องซ้ำ 2. ฟ้องโจทก์เคลือบคลุม

ปัญหาข้อแรกที่จำเลยว่าโจทก์ฟ้องซ้ำ ศาลฎีกาเห็นว่าโจทก์มิได้ฟ้องซ้ำ เพราะคดีก่อนโจทก์ฟ้องว่าจำเลยรบกวนสิทธิ ละเมิดสิทธิขอให้ห้ามมิให้จำเลยและบริวารเกี่ยวข้องหรือขัดขวางในการที่โจทก์จะครอบครองทรัพย์ แต่คดีใหม่นี้โจทก์ฟ้องเรื่องผิดสัญญาและเรียกค่าเสียหายตามสัญญาที่ทำกันไว้ ไม่เกี่ยวกับคดีหรือประเด็นที่ศาลได้วินิจฉัยชี้ขาดไว้ในคดีก่อน จึงไม่ต้องด้วยประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 144

ส่วนปัญหาข้อ 2 ว่าฟ้องโจทก์เคลือบคลุมหรือไม่นั้น จำเลยอ้างว่าเพราะโจทก์ไม่บรรยายในฟ้องว่า ในคดีก่อนนายสว่างเป็นทนายแก้ต่างนางอ่าง และได้ทำสัญญาแทนนางอ่าง แต่กลับกล่าวว่านางอ่างเป็นผู้ทำสัญญานั้น ศาลฎีกาเห็นว่า ปรากฏตามใบแต่งทนายที่นางอ่างได้แต่งให้นายสว่างเป็นทนายว่าความแทนในคดีแพ่งแดงที่ 48/2493 ให้อำนาจแก่นายสว่างทนายที่จะดำเนินกระบวนพิจารณาแทนในทางจำหน่ายสิทธิได้ด้วย ตาม ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา 62 เมื่อเช่นนี้นายสว่างจึงมีอำนาจทำความตกลงยอมใช้ค่าเสียหายให้แก่โจทก์แทนนางอ่างได้เสมือนว่านางอ่างเป็นผู้ตกลงเอง จึงไม่จำเป็นไม่ควรที่จะต้องบรรยายความในฟ้องข้อนี้ให้ยืดยาว

Share