แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
ทำหนังสือสัญญากู้เงินปลอมแล้วนำมาฟ้องเรียกเงินลักษณะพะยาน วัตถุพะยาน เอกสารที่จำเลยทำปลอมขึ้น แม้ โจทก์นำมาแสดงไม่ได้โดยถูกทำลายเสีย เมื่อคดีมีพะยานประกอบด้วยเหตุผลก็ลงโทษได้
ย่อยาว
โจทก์เคยกู้เงินจำเลยที่ ๑ ครั้งหนึ่ง และได้ใช้เงินที่กู้นั้นให้แก่ภรรยาจำเลยที่ ๑ รับต้นสัญญาคืนมาแล้ว ต่อมาจำเลยได้สมคบกันทำสัญญากู้เหมือนดังฉะบับที่โจทก์ได้รับคืนมาปลอมขึ้น แล้วนำมาฟ้องเรียกเงินจากโจทก์อีก โดยจำเลยที่ ๑ เปนผู้เขียน จำเลยที่ ๒ เปนผู้ลงลายมือชื่อเปนพะยาน และยังเบิกความช่วยเหลือซึ่งกันแลกันอีก ดังนี้
ศาลเดิมตัดสินว่าจำเลยมีผิดฐานปลอมหนังสือสำคัญตาม ม.๒๒๔ ให้จำคุกจำเลยที่ ๑ – ๒ ไว้คนละ ๖ เดือน ส่วนจำเลยที่ ๓ โจทก์ได้ถอนชื่อจากฟ้องเสียแล้ว
ศาลอุทธรณ์เห็นว่า คดียังเปนที่สงสัย ควรยกประโยชน์ให้แก่จำเลย จึงตัดสินกลับให้ยกฟ้องโจทก์ปล่อยจำเลยไป
ศาลฎีกาเห็นว่า แม้โจทก์ไม่มีสัญญาฉะบับปลอมมาแสดง ต้องนับว่าหลักฐานของโจทก์บกพร่องไปส่วนหนึ่ง แต่สัญญานั้นจำเลยเปนผู้ทำลายเสีย และเมื่อโจทก์มีพะยานประกอบด้วยเหตุผลมั่นคงแล้ว ก็ลงโทษจำเลยได้ จึงตัดสินกลับศาลอุทธรณ์ บังคับคดีตามศาลเดิม