แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
การที่จำเลยที่ 1 เป็นผู้ทำสัญญารับเหมาก่อสร้างสถานที่แห่งหนึ่ง แม้จะจ้างเหมาให้จำเลยที่ 2 สร้างอีกต่อหนึ่งก็ตาม แต่ระหว่างก่อสร้างได้ปักป้ายว่าตนเป็นผู้รับเหมาก่อสร้าง และบางครั้งก็ไปตรวจงานเองหรือมอบให้คนอื่นไปตรวจแทน การส่งมอบงานและรับเงินแต่ละงวดจำเลยที่ 1 ก็ทำเองโดยตรง เช่นนี้ ถือได้ว่าจำเลยที่ 1 ได้เชิดจำเลยที่ 2 ออกแสดงเป็นตัวแทนแล้ว จึงต้องรับผิดในหนี้ที่จำเลยที่ 2 ไปซื้อเชื่อวัสดุก่อสร้างต่อบุคคลภายนอกด้วย
สัญญาซื้อขายสังหาริมทรัพย์เป็นเงินเกินกว่าห้าร้อยบาทเมื่อผู้ซื้อได้รับของไปแล้ว ย่อมฟ้องร้องบังคับคดีกันได้โดยไม่ต้องมีหลักฐานเป็นหนังสือ ฉะนั้น การตั้งตัวแทนก็ไม่จำต้องทำเป็นหนังสือเช่นกัน
ย่อยาว
คดีทั้งสองสำนวนนี้ ศาลสั่งให้รวมการพิจารณาพิพากษาไปด้วยกัน
โจทก์ทั้งสองฟ้องมีใจความทำนองเดียวกันว่า จำเลยที่ 2 ซึ่งเป็นตัวแทนจำเลยที่ 1 รับเหมาก่อสร้างสำนักงานธนาคารออมสินสาขาตราด ได้ซื้อเชื่อหินชนิดต่าง ๆ จากนายฮวด และซื้อเชื่อไม้และสิ่งของต่าง ๆ จากนายสำรวมโจทก์ แล้วไม่ชำระราคาให้ครบขอให้บังคับ
จำเลยที่ 1 ให้การปฏิเสธว่าจำเลยที่ 2 มิใช่ตัวแทน จำเลยที่ 2ให้การรับว่าเป็นตัวแทนจำเลยที่ 1 ขอให้ยกฟ้อง
ศาลชั้นต้นเห็นว่า จำเลยที่ 1 เชิดจำเลยที่ 2 เป็นตัวแทนในการก่อสร้างสำนักงานธนาคารออมสิน สาขาตราด พิพากษาให้จำเลยที่ 1ชำระหนี้ 6,195.85 บาท พร้อมทั้งดอกเบี้ยแก่นายสำรวมโจทก์ และให้ชำระหนี้ 10,610 บาทพร้อมทั้งดอกเบี้ยแก่นายฮวดโจทก์ ให้ยกฟ้องโจทก์เฉพาะตัวจำเลยที่ 2
จำเลยที่ 1 อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
จำเลยที่ 1 ฎีกา
ศาลฎีกาเห็นว่า โจทก์มีพยานนำสืบฟังได้ว่า จำเลยที่ 2 ได้บอกกับโจทก์ทั้งสองว่า จำเลยที่ 2 เป็นนายช่างของจำเลยที่ 1 ซื้อวัสดุก่อสร้างจากโจทก์ไปสร้างธนาคารออมสิน สาขาตราด ซึ่งจำเลยที่ 1 เป็นผู้รับเหมาก่อสร้าง ทั้งในบริเวณที่ก่อสร้างมีป้ายบอกว่าจำเลยที่ 1 เป็นผู้รับเหมาก่อสร้าง โจทก์ทั้งสองจึงให้จำเลยที่ 2 ซื้อเชื่อวัสดุก่อสร้างไป และทางพิจารณายังปรากฏว่าจำเลยที่ 1 ได้ส่งช่างไปควบคุมการก่อสร้าง บางครั้งผู้จัดการของจำเลยที่ 1 ก็ไปตรวจงานด้วยตนเอง บางครั้งก็มอบให้มารดาผู้จัดการไปดูแลและควบคุมการก่อสร้าง การส่งมอบงานตลอดจนการรับเงินแต่ละงวดจำเลยที่ 1 ก็จัดทำกับธนาคารออมสินโดยตรง เห็นว่าตามพฤติการณ์ต่าง ๆ ที่จำเลยที่ 1 แสดงออกต่อโจทก์และบุคคลภายนอกดังกล่าวถือได้ว่าจำเลยที่ 1 ได้เชิดจำเลยที่ 2 ออกแสดงเป็นตัวแทนตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 821 จำเลยที่ 1 จึงต้องรับผิดในหนี้สินที่จำเลยที่ 2 ไปซื้อเชื่อวัสดุก่อสร้างและยังค้างชำระให้โจทก์
อนึ่ง จำเลยที่ 1 ได้ซื้อหินจากนายฮวดโจทก์ และซื้อไม้กับสิ่งของต่าง ๆ จากนายสำรวมโจทก์ ได้รับของไปใช้ในการก่อสร้างแล้วจึงถือได้ว่าการซื้อขายสิ่งของดังกล่าวระหว่างโจทก์ทั้งสองสำนวนกับจำเลยที่ 2 ได้มีการชำระหนี้กันแล้ว จึงฟ้องร้องบังคับคดีได้โดยไม่ต้องมีหลักฐานเป็นหนังสือ เมื่อการซื้อขายไม่ต้องมีหลักฐานเป็นหนังสือ การตั้งตัวแทนก็ไม่ต้องมีหลักฐานเป็นหนังสือเช่นกัน
พิพากษายืน ให้ยกฎีกาจำเลยที่ 1