คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1802/2523

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ฟ้องของโจทก์ซึ่งบรรยายว่า จำเลยเป็นเจ้าของรถยนต์บรรทุกน้ำและเป็นผู้มีอาชีพบรรทุกน้ำไปขาย จำเลยเป็นนายจ้างของ ป. ป. ขับรถยนต์นั้นบรรทุกน้ำไปเพื่อขาย ได้ขับรถยนต์โดยประมาทชน ว. ตาย เป็นการทำละเมิดให้โจทก์เสียหาย จำเลยซึ่งเป็นนายจ้างจะต้องรับผิดต่อโจทก์ร่วมกับ ป. เป็นฟ้องที่มีข้อหาว่า ป. ลูกจ้างของจำเลยได้ทำละเมิดต่อโจทก์ในทางการที่จ้างของจำเลย ถูกต้องสมบูรณ์แล้ว แม้จะไม่ได้กล่าวระบุข้อความว่าเป็นการกระทำในทางการที่จ้างของจำเลยลงไปด้วย ก็ไม่เป็นฟ้องเคลือบคลุม
จำเลยให้การตั้งประเด็นต่อสู้คดีไว้ว่าจำเลยไม่ต้องร่วมรับผิดชอบในผลแห่งการกระทำละเมิดของ ป. ในขณะเกิดเหตุรถยนต์บรรทุกน้ำของจำเลยอยู่ในความครอบครองรับผิดชอบของผู้อื่นซึ่งเช่าซื้อไป จำเลยมิได้เป็นนายจ้างของ ป. และมิได้มีนิติสัมพันธ์ต่อกัน หาได้ตั้งประเด็นต่อสู้ว่าจำเลยไม่ต้องรับผิดชอบในผลแห่งการทำละเมิดของ ป. เพราะ ป. มิได้ทำการในทางการที่จ้างของจำเลยไม่ การนำสืบของจำเลยในข้อนี้จึงเป็นการนำสืบนอกประเด็น รับฟังไม่ได้

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องและแก้ฟ้องว่า โจทก์เป็นมารดาของนางสาววารุณี จำเลยเป็นเจ้าของรถยนต์บรรทุกน้ำหมายเลขทะเบียน ก.จ.07649 และเป็นผู้มีอาชีพบรรทุกน้ำไปขาย จำเลยเป็นนายจ้างนายประเสริฐ ผู้ขับขี่รถยนต์คันนี้นายประเสริฐขับรถยนต์ดังกล่าวบรรทุกน้ำเพื่อนำไปขาย ได้ขับไปตามถนนเพชรเกษม จากทางบางไผ่มุ่งหน้าไปทางบางแคด้วยความประมาทเลินเล่ออย่างร้ายแรง กล่าวคือขับไปด้วยความเร็วสูงมากจนไม่สามารถหยุดได้ทันเมื่อเห็นรถวิ่งอยู่ข้างหน้าชะลอความเร็วเพื่อหยุดให้คนข้ามถนนตรงทางม้าลาย นายประเสริฐจึงหักพวงมาลัยรถบรรทุกคันดังกล่าวไปทางขวาเป็นเหตุให้รถคันที่นายประเสริฐขับพุ่งเข้าชนเกาะกลางถนนและเสาไฟฟ้าสัญญาณจราจร แล้วไปชนนางสาววารุณีซึ่งยืนอยู่บนเกาะกลางถนนตรงทางข้ามถึงแก่ความตาย ทำให้โจทก์ได้รับความเสียหาย รวมค่าเสียหายทั้งสิ้น 128,440 บาท จำเลยในฐานะนายจ้างของนายประเสริฐ จะต้องรับผิดต่อโจทก์ร่วมกับนายประเสริฐในผลของการละเมิดซึ่งนายประเสริฐลูกจ้างก่อขึ้นต่อโจทก์ ขอให้พิพากษาให้จำเลยชำระเงินให้โจทก์ 128,440บาท พร้อมด้วยดอกเบี้ยในอัตราร้อยละเจ็ดครึ่งต่อปีในเงินดังกล่าวนับแต่วันฟ้องถึงวันชำระเสร็จ

จำเลยให้การว่า จำเลยเป็นเจ้าของรถยนต์บรรทุกน้ำตามฟ้องจริงแต่ในขณะเกิดเหตุ รถยนต์บรรทุกน้ำคันนี้อยู่ในความครอบครองรับผิดชอบของบุคคลอื่นซึ่งเช่าซื้อรถคันนี้ไป จำเลยมิได้เป็นนายจ้างของนายประเสริฐและไม่มีนิติสัมพันธ์อันใดต่อกัน เหตุรถยนต์ชนนางสาววารุณีตายเกิดเพราะความประมาทเลินเล่ออย่างร้ายแรงของนางสาววารุณีซึ่งวิ่งข้ามฟากจากถนนฟากหนึ่งไปยังเกาะกลางถนนเพื่อข้ามไปอีกฟากหนึ่งของถนนในที่ซึ่งไม่ใช่ทางม้าลายสำหรับคนข้ามตัดหน้ารถยนต์บรรทุกน้ำดังกล่าวซึ่งเป็นรถหนักและวิ่งมาด้วยความเร็วตามที่กฎหมายกำหนด โจทก์เรียกร้องค่าเสียหายสูงเกินความจริง ค่าเสียหายของโจทก์ทั้งสิ้นไม่เกิน 16,000 บาท ฟ้องโจทก์เคลือบคลุมไม่ได้บรรยายว่าขณะเกิดเหตุนายประเสริฐขับขี่รถยนต์บรรทุกน้ำตามฟ้องไปขายให้ใคร เพื่อประโยชน์ในธุรกิจทางการที่จ้างหรือการค้าของผู้ใด อันเป็นองค์ประกอบสำคัญเกี่ยวกับการรับผิดในผลละเมิดของบุคคลอื่นทำให้จำเลยไม่สามารถให้การต่อสู้คดีของโจทก์โดยชัดแจ้งได้ ขอให้พิพากษายกฟ้อง

ศาลชั้นต้นพิจารณาแล้ว พิพากษาให้จำเลยชำระเงิน 70,800 บาทพร้อมดอกเบี้ยในอัตราร้อยละเจ็ดครึ่งนับแต่วันละเมิดจนกว่าจะชำระเสร็จแก่โจทก์ให้โจทก์ใช้ค่าฤชาธรรมเนียมโดยกำหนดค่าทนายความ 3,000 บาทแทนโจทก์

จำเลยอุทธรณ์

ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้เป็นว่า ให้จำเลยใช้ค่าสินไหมทดแทนแก่โจทก์เป็นเงินทั้งสิ้น 68,400 บาท พร้อมดอกเบี้ยในอัตราร้อยละเจ็ดครึ่งต่อปีนับแต่วันฟ้องเป็นต้นไปจนกว่าจะชำระเสร็จ ให้จำเลยใช้ค่าขึ้นศาลในศาลชั้นต้นเท่าที่โจทก์ชนะคดี นอกจากที่แก้ให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น ค่าทนายความชั้นอุทธรณ์ให้เป็นพับ

จำเลยฎีกา

ศาลฎีกาพิจารณาแล้ววินิจฉัยว่า ที่โจทก์ฎีกาว่าฟ้องโจทก์เคลือบคลุมเพราะมิได้บรรยายฟ้องว่านายประเสริฐขับรถยนต์บรรทุกหมายเลขทะเบียนก.จ.07649 บรรทุกน้ำไปขายเป็นการกระทำในทางการที่จ้างของจำเลย ฟ้องโจทก์จึงไม่สมบูรณ์และเป็นฟ้องเคลือบคลุมนั้น เห็นว่าฟ้องของโจทก์ซึ่งบรรยายว่าจำเลยเป็นเจ้าของรถยนต์บรรทุกน้ำหมายเลขทะเบียน ก.จ.07649 และเป็นผู้มีอาชีพบรรทุกน้ำไปขาย จำเลยเป็นนายจ้างของนายประเสริฐ เมื่อวันที่ 7มกราคม 2520 เวลาประมาณ 13 นาฬิกา นายประเสริฐได้ขับรถยนต์บรรทุกคันหมายเลขทะเบียน ก.จ.07649 บรรทุกน้ำไปเพื่อขาย ได้ขับรถยนต์โดยประมาทชนนางสาววารุณีตาย เป็นการกระทำละเมิดให้โจทก์เสียหายจำเลยซึ่งเป็นนายจ้างจะต้องรับผิดต่อโจทก์ร่วมกับนายประเสริฐ เป็นฟ้องที่มีข้อหาว่านายประเสริฐลูกจ้างของจำเลยได้ทำละเมิดต่อโจทก์ในทางการที่จ้างของจำเลยถูกต้องสมบูรณ์แล้ว แม้จะไม่ได้กล่าวระบุข้อความว่าเป็นการกระทำตามทางการที่จ้างของจำเลยลงไปด้วย ก็ไม่เป็นฟ้องเคลือบคลุม

ที่จำเลยฎีกาว่า นายประเสริฐซึ่งเป็นลูกจ้างของจำเลยขับรถยนต์บรรทุกน้ำของจำเลยไปเกิดเหตุเพราะนายประเสริฐขับไปหาภรรยาของนายประเสริฐที่บางแคในเวลาหยุดพักโดยจำเลยไม่ได้รู้เห็นยินยอมด้วยการกระทำของนายประเสริฐจึงมิใช่เป็นการกระทำในทางการที่จ้างหากแต่เป็นการกระทำในกิจการส่วนตัวของนายประเสริฐเอง จำเลยจึงไม่ต้องร่วมรับผิดด้วยนั้น เห็นว่าคดีนี้จำเลยให้การตั้งประเด็นต่อสู้คดีไว้ว่าจำเลยไม่ต้องร่วมรับผิดในผลแห่งการละเมิดของนายประเสริฐในขณะเกิดเหตุรถยนต์บรรทุกน้ำของจำเลยอยู่ในความครอบครองรับผิดชอบของผู้อื่นซึ่งเช่าซื้อไป จำเลยมิได้เป็นนายจ้างของนายประเสริฐและมิได้มีนิติสัมพันธ์ต่อกัน หาได้ตั้งประเด็นต่อสู้ว่าจำเลยไม่ต้องรับผิดชอบในผลแห่งการทำละเมิดของนายประเสริฐเพราะนายประเสริฐมิได้ทำการในทางการที่จ้างของจำเลยไม่ การนำสืบของจำเลยในข้อนี้จึงเป็นการนำสืบนอกประเด็นรับฟังไม่ได้เมื่อรถยนต์จำเลยชนนางสาววารุณีและนายพยุงแล้วรถยนต์ก็พลิกคว่ำลง มีน้ำไหลออกมาจากรถนองถนน แสดงให้เห็นได้อย่างชัดเจนว่ารถยนต์จำเลยชนนางสาววารุณีเกิดขึ้นในขณะนายประเสริฐขับรถยนต์ของจำเลยขนน้ำไปขายตามหน้าที่ที่ได้รับจ้างจำเลยผู้มีอาชีพขายน้ำนั่นเอง จึงฟังได้ว่านายประเสริฐขับรถยนต์จำเลยไปตามทางการที่จ้างของจำเลยตามฟ้องและศาลฟังข้อเท็จจริงว่านายประเสริฐขับรถโดยประมาท ให้จำเลยใช้ค่าสินไหมทดแทนแก่โจทก์

พิพากษายืน

Share