คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1796/2512

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ประมวลรัษฎากร มาตรา 12 ให้อำนาจข้าหลวงประจำจังหวัดหรือนายอำเภอโดยเฉพาะที่จะสั่งยึดและสั่งขายทอดตลาดทรัพย์สินของผู้ต้องรับผิดเสียภาษีอากรโดยมิต้องขอให้ศาลออกหมายยึดหรือสั่ง. จึงเห็นได้ว่าสำหรับค่าภาษีอากรค้างกฎหมายให้อำนาจแก่เจ้าพนักงานที่จะเรียกเก็บเองตลอดถึงการยึดทรัพย์ได้ด้วย. โดยไม่จำต้องนำคดีฟ้องศาลก่อน.เมื่อผู้ร้องซึ่งเป็นผู้ว่าราชการจังหวัดในฐานะเจ้าพนักงานมีสิทธิที่จะบังคับเหนือทรัพย์สินได้ตามกฎหมาย ทั้งก็เป็นผู้ใช้อำนาจนี้ก่อน. แต่ยังไม่ทันได้ขายทอดตลาด.เจ้าพนักงานบังคับคดีก็ไปยึดทรัพย์รายเดียวกันนี้ตามคำสั่งศาลอีก. ดังนี้ ผู้ร้องซึ่งมิได้เป็นเจ้าหนี้ตามคำพิพากษามีสิทธิขอเฉลี่ยได้ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา287. เพราะผู้ร้องเป็นบุคคลภายนอกมีสิทธิอาจร้องขอให้บังคับเหนือทรัพย์สินนั้นได้ตามกฎหมาย.(ประชุมใหญ่ ครั้งที่ 30/2512).

ย่อยาว

ผู้ร้องร้องว่า จำเลยที่ 1 ค้างชำระค่าภาษีอากรรวมเป็นเงิน3,356,987 บาท 23 สตางค์ ผู้ร้องสั่งให้นายอำเภอยึดทรัพย์สินจำเลยที่ 1 ตามประมวลรัษฎากรมาตรา 12 เพื่อขายทอดตลาดเอาเงินชำระค่าภาษีที่ค้าง แต่ยังไม่ทันขาย ก็ถูกโจทก์ในคดีนี้นำเจ้าพนักงานบังคับคดียึดทรัพย์จำเลยที่ 1 ที่ผู้ร้องยึดไว้ก่อนจนหมดสิ้น ผู้ร้องจึงขอเฉลี่ย ขอให้ศาลอนุญาต โจทก์คัดค้านว่าไม่มีสิทธิขอเฉลี่ย ศาลชั้นต้นให้งดสืบพยานทั้งสองฝ่าย แล้วเห็นว่าผู้ร้องมิใช่เจ้าหนี้ตามคำพิพากษา จึงไม่มีสิทธิขอเฉลี่ย ฯลฯ ให้ยกคำร้อง ผู้ร้องอุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน ผู้ร้องฎีกา ศาลฎีกาเห็นว่า ในเรื่องค่าภาษีอากรซึ่งต้องเสียตามประมวลรัษฎากร ประมวลรัษฎากร มาตรา 12 บัญญัติไว้เป็นพิเศษ คือ เพื่อให้ได้รับชำระค่าภาษีอากรค้าง ให้เป็นอำนาจของข้าหลวงประจำจังหวัดหรือนายอำเภอโดยเฉพาะที่จะสั่งยึดและสั่งขายทอดตลาดทรัพย์สินของผู้ต้องรับผิดเสียภาษีอากร โดยมิต้องขอให้ศาลออกหมายยึดหรือสั่งจึงเห็นได้ว่าสำหรับค่าภาษีอากรค้างนี้ กฎหมายให้อำนาจแก่เจ้าพนักงานที่จะเรียกเก็บเอง ตลอดถึงการยึดทรัพย์ได้ด้วย โดยไม่จำต้องนำคดีขึ้นฟ้องร้องศาลก่อน เมื่อผู้ร้องในฐานะเจ้าพนักงานมีสิทธิที่จะบังคับเหนือทรัพย์สินได้ตามกฎหมาย ทั้งเจ้าพนักงานก็เป็นผู้ใช้อำนาจนี้ก่อนแต่ยังไม่ทันได้ขายทอดตลาด เจ้าพนักงานบังคับคดีก็ไปยึดทรัพย์รายเดียวกันนี้ตามคำสั่งศาลอีก ศาลฎีกาโดยมติที่ประชุมใหญ่จึงเห็นว่า แม้ผู้ร้องซึ่งมิได้เป็นเจ้าหนี้ตามคำพิพากษา จะขอเฉลี่ย ก็มีสิทธิขอเฉลี่ยได้ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 287 เพราะผู้ร้องเป็นบุคคลภายนอกที่มีสิทธิอาจร้องขอให้บังคับเหนือทรัพย์สินนั้นได้ตามกฎหมาย ฎีกาผู้ร้องฟังขึ้น พิพากษากลับคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ อนุญาตให้ผู้ร้องเข้าเฉลี่ยในทรัพย์สินหรือเงินที่ขายหรือจำหน่ายทรัพย์สินนั้นได้ ตามที่บัญญัติไว้ในประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์.

Share