แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
การบอกเลิกสัญญาเช่าตาม พ.ร.บ.ควบคุมค่าเช่าในภาวะคับขัน มาตรา 16 ข้อ 4 นั้น หมายถึง ในกรณีที่ผู้เช่าทำทรัพย์ที่เช่าให้เป็นไปในทางที่เสื่อมเสีย.
ย่อยาว
ได้ความว่า จำเลยซึ่งเป็นผู้เช่าได้รื้อถอนดัดแปลงห้องเช่า โดยรื้อครัวด้านหลังห้อง ซึ่งเดิมชั้นเดียวเปลี่ยนแปลงเป็น ๒ ชั้น โจทก์ฟ้องขับไล่ เรียกค่าเสียหายและให้ชำระค่าเช่าที่ค้าง โดยอ้างว่าเจ้าของที่ดินซึ่งโจทก์เช่าปลูกห้องเช่ารายนี้ห้ามไม่ให้แก้ไขปลูกสร้างหรือทำการใดก่อนได้รับอนุญาต
จำเลยให้การว่า ได้ดัดแปลงต่อเติมสถานที่เช่าจริงโดยโจทก์ยินยอม และให้สภาพดีขึ้น โจทก์ไม่เสียหายอะไร ฟ้องเคลือบคลุม ค่าเช่าจำเลยไม่ได้ผิดนัด
ศาลชั้นต้นเห็นว่า จำเลยดัดแปลงต่อเติมห้องเช่าโดยไม่ได้รับความยินยอมจากโจทก์ จำเลยไม่นำสืบหักล้างข้อที่ทำให้เคหะนี้กลับคืนสภาพเดิม ซึ่งโจทก์นำสืบได้ว่าต้องใช้เงิน ๓,๐๐๐ บาท พิพากษาให้จำเลยใช้ค่ารื้อถอน ๓,๐๐๐ บาท หรือให้จำเลยรื้อถอนเคหะให้กลับคืนสู่สภาพเดิมเอง กับชำระค่าเช่าที่ค้าง คำขอนอกนั้นยก
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาเห็นว่า จำเลยได้รื้อครัวด้านหลัง ซึ่งเดิมชั้นเดียวเปลี่ยนแปลงเป็น ๒ ชั้น ศาลอุทธรณ์วินิจฉัยว่า โจทก์จะบอกเลิกสัญญาทันทีไม่ได้ ต้องให้จำเลยแก้ไขให้ดีเสียก่อนตามมาตรา ๕๕๔ ป.ม.แพ่งฯ ที่โจทก์เถียงว่า ได้บอกกล่าวให้จำเลยแก้ไขแล้วเป็นการเถียงข้อเท็จจริงที่ศาลอุทธรณ์ได้ชี้ขาดไว้แล้ว และศาลชั้นต้นไม่รับฎีกาในข้อเท็จจริง จึงไม่วินิจฉัย ส่วนที่โจทก์อ้างว่ามีสิทธิเลิกสัญญาเช่าได้ตามมาตรา ๑๖ ข้อ ๔ แห่ง พ.ร.บ.ควบคุมค่าเช่าฯ นั้น บทกฎหมายดังกล่าวหมายความว่า ผู้เช่าทำทรัพย์ที่เช่าให้เป็นไปในทางที่เสื่อมเสีย แต่การที่ผู้เช่าได้ทำครัวชั้นเดียวให้เป็น ๒ ชั้นนั้น จะถือว่าเป็นการทำให้เสื่อมเสียมิได้
พิพากษายืน.