คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1776/2493

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

การอุทิศที่ดินให้เป็นทางหลวงนั้น จะอุทิศโดยตรงหรือโดยปริยายก็ได้และที่จะเป็นทางหลวงก็หาจำต้องมีทะเบียนอะไรไม่
จำเลยได้ยุบทางเก่ามาเป็นของจำเลยแล้วทำทางใหม่ขึ้นแทนให้ประชาชนได้ใช้สัญจร มากว่า 10 ปีย่อมเป็นการอุทิศให้เป็นทางหลวงโดยปริยายแล้ว เมื่อไปปลูกโรงเรือนล้ำทางนี้เข้าโดยไม่ได้รับอนุญาต จึงต้องมีผิดตาม ก.ม.ลักษณะอาญามาตรา 336(2)

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่าจำเลยปลุกสร้างโรงรมยางโรงอัดยางรุกล้ำทางหลวงโดยมิได้รับอนุญาตอันชอบด้วย ก.ม. ขอให้ลงโทษ ตาม ก.ม.ลักษณะอาญามาตรา ๓๓๖(๒)
ศาลชั้นต้นพิพากษาลงโทษจำเลยตามมาตรา ๓๓๖(๒)
ศาลอุทธรณ์เห็นว่า จำเลยทำทางพิพาทขึ้นแทนทางเก่าที่จำเลยเอาเสีย แล้วให้ประชาชนใช้ทางใหม่นี้มากว่า ๑๐ ปี เป็นการอุทิศให้ทางนี้เป็นทางหลวงแล้วโดยปริยาย เมื่อจำเลยได้ปลูกโรงเรือนล้ำทางนี้จึงมีผิด พิพากษายืน
จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาเห็นว่า การอุทิศที่ดินให้เป็นทางหลวงนั้นจะอุทิศโดยตรงหรือโดยปริยายก็ได้ ในเรื่องนี้ที่ศาลอุทธรณ์วินิจฉัยจากข้อเท็จจริงที่ว่าจำเลยได้ยุบทางเก่ามาเป็นของจำเลย แล้วทำทางใหม่รายพิพาทนี้ขึ้นแทน ให้ประชาชนใช้สัญจรมากว่า ๑๐ ปี เป็นการอุทิศให้โดยปริยายนั้นเป็นการชอบแล้ว และที่จะเป็นทางหลวงก็หาจำต้องมีทะเบียนอะไรไม่
จึงพิพากษายืน

Share