คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 177/2485

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

เข้าครอบครองที่ดินโดยไม่สุจริต ภายหลังที่มีผู้ขอประทานบัตร์ทำเหมืองแร่นั้น เมื่อได้รับประทานบัตร์แล้ว ผู้รับประทานบัตร์ย่อมฟ้องขอห้ามมิให้ผู้ครอบครองเกี่ยวข้องเป็นการขัดขวางต่อสิทธิการทำเหมืองแร่ได้. (อ้างฎีกาที่ 868/2456) โจทก์ฟ้องขอห้ามมิให้เกี่ยวข้องที่ดิน ศาลตัดสินไม่ให้เกี่ยวข้องฉะเพาะในการขัดขวางต่อสิทธิการทำเหมืองแร่ได้ ไม่เป็นการนอกคำขอ.

ย่อยาว

โจทย์ฟ้องขับไล่และขอให้ห้ามจำเลยไม่ให้เข้าเกี่ยวข้องในที่รายพิพาทซึ่งอยู่ในเขตต์ประทานบัตร์ของโจทก์ จำเลยต่อสู้ว่าเป็นที่ซึ่งจำเลยปกครองมากว่า ๑๐ ปีแล้ว.
ศาลชั้นต้นฟังว่าที่พิพาทอยู่นอกเขตต์ประทานบัตร์ของโจทก์ ให้ยกฟ้อง.
ศาลอุทธรณ์ฟังว่า จำเลยเข้าก่อสร้างที่พิพาทภายหลังโจทก์ขอประทานบัตร์ จึงพิพากษาห้ามไม่ให้จำเลยเข้าเกี่ยวข้องฉะเพาะที่เป็นการขัดขวางสิทธิการทำเหมืองแร่ของโจทก์ แต่มีความเห็นแย้ง.
จำเลยฎีกา ศาลฎีกาเห็นว่าโจทก์ขอประทานบัตร์เมื่อปี พ.ศ.๒๔๗๗ เจ้าพนักงานได้ประกาศในปีนั้นให้ผู้มีส่วนเกี่ยวข้องคัดค้านภายใน ๑๕ วัน จำเลยเพิ่งเข้าอยู่ในที่พิพาทเมื่อปี พ.ศ.๒๔๘๑ ภายหลังวันใช้พระราชบัญญัติที่ดินฉะบับที่ ๖ โดยมิได้ขอรับอนุญาตจากเจ้าพนักงาน ศาลฎีกาเห็นว่าจำเลยมิได้ใช้สิทธิโดยสุจริด โจทก์ได้เพียรพยายามดำเนินการมาแต่แรกโดยสุจริต แม้รับประทานบัตร์ภายหลังจำเลยเข้าครอบครองก็มีสิทธิเข้าทำเหมืองแร่ตามอำนาจในประทานบัตร์และตามพระราชบัญญัติการทำเหมืองแร่ และการที่โจทก์ก็มีคำขอห้ามอย่าให้จำเลยเกี่ยวข้องทำสิ่งใดในที่พิพาทศาลพิพากษาห้ามฉะเพาะกรณีที่จะเป็นการขัดขวางสิทธิของโจทก์ในอันที่จะทำเหมืองแร่นั้นไม่เป็นการนอกคำฟ้อง จึงพิพากษายืนตามศาลอุทธรณ์.

Share