แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
สามีจำเลยกับโจทก์ร่วมกันเข้าหุ้นตั้งห้างหุ้นส่วนจำกัด ต่อมาสามีจำเลยตายโจทก์จำเลยตกลงให้กิจการของห้างดำเนินต่อไป โดยจดทะเบียนเปลี่ยนแปลงผู้ถือหุ้นจากสามีจำเลยเป็นจำเลย ทรัพย์สินของสามีจำเลยซึ่งมีอยู่ในห้างย่อมเป็นมรดกได้แก่จำเลย เมื่อจำเลยตกลงเข้าเป็นหุ้นส่วนกับโจทก์แทนที่สามีจำเลยก็เท่ากับจำเลยได้ลงหุ้นแล้ว
โจทก์ในฐานะหุ้นส่วนมีสิทธิที่จะไต่ถามถึงการงาน และมีสิทธิที่จะตรวจและคัดสำเนาสมุดบัญชีและเอกสารใด ๆ ของห้างได้ ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1037 ประกอบด้วยมาตรา 1080 แม้จำเลยจะมีเอกสารของห้างหุ้นส่วนหรือไม่ก็ตาม แต่เมื่อโจทก์ขอให้จำเลยซึ่งเป็นหุ้นส่วนผู้จัดการแสดงบัญชีรายจ่ายพร้อมทั้งหลักฐานใบสำคัญการรับจ่ายเงินของห้างหุ้นส่วนตั้งแต่วันจำเลยเข้าดำเนินกิจการจนถึงปัจจุบัน ย่อมอยู่ในวิสัยที่จำเลยจะแสดงได้ หาใช่เป็นเรื่องสภาพแห่งหนี้ไม่เปิดช่องให้บังคับไม่
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องว่า โจทก์กับสามีจำเลยได้ร่วมกันเข้าหุ้นตั้งห้างหุ้นส่วนจำกัดวิราษฎร์การช่าง โดยมีจำเลยเป็นหุ้นส่วนผู้จัดการ ต่อมาสามีจำเลยตาย โจทก์ตกลงให้จำเลยเข้าร่วมเป็นหุ้นส่วนและเป็นหุ้นส่วนผู้จัดการ จำเลยไม่ยอมแสดงบัญชีรับจ่ายและใบสำคัญการเงินของห้าง ขอให้จำเลยแสดงบัญชีรับจ่ายพร้อมทั้งหลักฐานใบสำคัญการจ่ายเงินของห้าง
จำเลยให้การว่า สัญญาหุ้นส่วนระหว่างโจทก์จำเลยได้ทำขึ้นโดยเจตนาลวงเป็นนิติกรรมอำพราง จำเลยไม่เคยถอนหุ้นของสามีจำเลยออกจากห้าง และไม่มีการลงเงินเข้าหุ้นกันอีก ทั้งจำเลยไม่ได้ดำเนินกิจการหรือครอบครองทรัพย์สินของห้าง หลักฐานบัญชีตลอดจนใบสำคัญการเงินไม่ได้อยู่ในความครอบครองของจำเลย โจทก์ไม่มีอำนาจฟ้อง
ศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำเลยแสดงบัญชีรับจ่ายพร้อมทั้งหลักฐานใบสำคัญการรับจ่ายเงินของห้างหุ้นส่วนจำกัดวิราษฎร์การช่าง
จำเลยอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า ข้อเท็จจริงฟังเป็นยุติว่าโจทก์กับสามีจำเลยเป็นหุ้นส่วนในห้างหุ้นส่วนจำกัดวิราษฎร์การช่าง เมื่อสามีจำเลยตาย โจทก์และจำเลยตกลงกันให้กิจการของห้างดำเนินต่อไป โดยจดทะเบียนเปลี่ยนแปลงผู้ถือหุ้น ถอนสามีจำเลยออกแล้วให้จำเลยเป็นหุ้นส่วนแทน แม้จะปรากฏว่าจำเลยไม่ได้ลงหุ้นอีกแต่ทรัพย์สินของสามีจำเลยซึ่งมีอยู่ในห้างหุ้นส่วนย่อมเป็นมรดกได้แก่จำเลย เมื่อจำเลยตกลงเข้าไปเป็นหุ้นส่วนกับโจทก์แทนที่สามีจำเลย ก็เท่ากับจำเลยลงหุ้นซึ่งสามารถตีราคาเป็นเงินได้แล้ว และจำเลยได้เข้าดำเนินกิจการของห้าง สัญญาหุ้นส่วนและการจดทะเบียนห้างหุ้นส่วนระหว่างโจทก์จำเลยจึงไม่เป็นนิติกรรมอำพราง
โจทก์และจำเลยเป็นหุ้นส่วนกันโดยจำเลยเป็นหุ้นส่วนผู้จัดการ โจทก์ย่อมมีสิทธิที่จะไต่ถามกิจการงาน และมีสิทธิที่จะตรวจและคัดสำเนาสมุดบัญชีและเอกสารใด ๆ ของห้างหุ้นส่วนได้ ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา ๑๐๓๗ ประกอบด้วยมาตรา ๑๐๘๐ แม้จำเลยจะมีเอกสารของห้างหุ้นส่วนหรือไม่ก็ตาม แต่เมื่อโจทก์ขอให้แสดงบัญชีรับจ่ายพร้อมทั้งหลักฐานใบสำคัยการรับจ่ายเงินของห้างหุ้นส่วนตั้งแต่วันที่จำเลยเข้าดำเนินกิจการ ย่อมอยู่ในวิสัยที่จำเลยซึ่งเป็นหุ้นส่วนผู้จัดการจะแสดงได้ หาใช่เรื่องสภาพแห่งหนี้ไม่เปิดช่องให้บังคับไม่
พิพากษายืน