คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1760/2532

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

แม้คำร้องทุกข์และคำให้การชั้นสอบสวนของผู้เสียหายคนหนึ่ง จะมีผู้เสียหายอีกคนหนึ่งเป็นล่ามแปล ก็เป็นคำร้องทุกข์และคำให้การที่ชอบด้วยกฎหมาย เพราะ ไม่มีกฎหมายบัญญัติห้ามมิให้พนักงานสอบสวนให้ผู้เสียหายเป็นล่าม

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยทั้งหกตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๒๙๗, ๓๐๙, ๓๑๐, ๘๓, ๙๑ พระราชบัญญัติอาวุธปืน เครื่องกระสุนปืน วัตถุระเบิด ดอกไม้เพลิงและสิ่งเทียมอาวุธปืน พ.ศ.๒๔๙๐ มาตรา ๗, ๗๒ คำสั่งของคณะปฏิรูปการปกครองแผ่นดินฉบับที่ ๔๔ ลงวันที่ ๒๑ ตุลาคม ๒๕๐๙ ข้อ ๖ พระราชบัญญัติวิทยุคมนาคม พ.ศ.๒๔๙๘ มาตรา ๖, ๒๒, ๒๓ ประกาศของคณะปฏิวัติ ฉบับที่ ๑๑ ลงวันที่ ๒๑ พฤศจิกายน ๒๕๑๔ ข้อ ๒ คืนอาวุธปืน กระสุนปืน ๓ นัด ของกลางแก่เจ้าของ ริบเครื่องวิทยุคมนาคมพร้อมอุปกรณ์ของกลางเพื่อไว้ใช้ในราชการ กรมไปรษณีย์โทรเลข
จำเลยทั้งหกให้การปฏิเสธ
ระหว่างพิจารณาจำเลยที่ ๑ หลบหนี ศาลชั้นต้นสั่งจำหน่ายคดีชั่วคราวเฉพาะจำเลยที่ ๑
ศาลชั้นต้นพิจารณาแล้วพิพากษาว่า จำเลยที่ ๒ ที่ ๔ และจำเลยที่ ๕ กระทำผิดตามฟ้องฐานผิดต่อเสรีภาพ กับมีความผิดฐานหน่วงเหนี่ยวกักขังตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๓๐๙ วรรคสอง มาตรา ๓๑๐ ประกอบด้วยมาตรา ๘๓ ให้ลงโทษตามมาตรา ๓๐๙ วรรคสอง อันเป็นบทหนักจำคุกคนละ ๑ ปี รวม ๒ กระทง เป็นจำคุกคนละ ๒ ปี จำเลยที่ ๒ มีความผิดฐานมีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาตตามพระราชบัญญัติอาวุธปืน เครื่องกระสุนปืน วัตถุระเบิด ดอกไม้เพลิง และสิ่งเทียมอาวุธปืน พ.ศ.๒๔๙๐ มาตรา ๗, ๗๒ คำสั่งของคณะปฏิรูปการปกครองแผ่นดิน ฉบับที่ ๔๔ ลงวันที่ ๒๑ ตุลาคม ๒๕๑๙ ข้อ ๖ ลงโทษจำคุก ๘ เดือน และมีความผิดฐานมีเครื่องวิทยุคมนาคม และส่วนใด ๆ แห่งวิทยุคมนาคมไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาตตามพระราชบัญญัติวิทยุคมนาคม พ.ศ.๒๔๙๘ มาตรา ๖, ๒๓ ลงโทษจำคุก ๔ เดือน รวม ๔ กระทง เป็นจำคุกจำเลยที่ ๒ มีกำหนด ๓ ปี จำเลยที่ ๖ มีความผิดฐานทำร้ายร่างกายผู้อื่นจนเป็นเหตุให้ผู้ถูกทำร้ายได้รับอันตรายสาหัส ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๒๙๗ ประกอบกับมาตรา ๘๓ ลงโทษจำคุก ๓ ปี ยกฟ้องจำเลยที่ ๓ คืนอาวุธปืนและกระสุนปืน ๓ นัด แก่เจ้าของ ริบเครื่องวิทยุคมนาคมพร้อมอุปกรณ์ไว้ใช้ในราชการกรมไปรษณีย์โทรเลข
จำเลยที่ ๒ ที่ ๕ ที่ ๖ อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
จำเลยที่ ๖ ฎีกา
ศาลฎีกาตรวจสำนวนประชุมปรึกษาแล้ว จำเลยที่ ๖ ฎีกาเพียงว่าคำร้องทุกข์และคำให้การชั้นสอบสวนของนายตาลทุน ผู้เสียหายไม่ชอบด้วยกฎหมายเพราะนายมิอูผู้เสียหายอีกคนหนึ่งเป็นล่าม จึงถือเสมือนว่าคดีนี้ไม่มีการร้องทุกข์และสอบสวน พิเคราะห์แล้วเห็นว่า ไม่มีกฎหมายบัญญัติห้ามเกี่ยวกับเรื่องนี้แต่อย่างใดการร้องทุกข์และคำให้การชั้นสอบสวนของนายตาลทุน ผู้เสียหายดังกล่าวแม้จะมีผู้เสียหายอีกคนหนึ่งเป็นล่ามก็ย่อมถูกต้องตามกฎหมายแล้ว จะถือว่าไม่มีการร้องทุกข์และสอบสวนตามฎีกาของจำเลยที่ ๖ หาได้ไม่ ฎีกาจำเลยที่ ๖ ฟังไม่ขึ้น
พิพากษายืน.

Share