แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
อัยการและผู้เสียหายเป็นโจทก์ร่วมกันฟ้องคดีอาญาความผิดต่อส่วนตัวอันยอมความกันได้ เมื่อผู้เสียหายซึ่งร้องทุกข์และเข้าเป็นโจทก์ร่วมได้ขอถอนคำร้องทุกข์และขอถอนฟ้องสิทธิฟ้องคดีของอัยการย่อมระงับไปตาม ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญามาตรา 39(2) ศาลต้องพิพากษายกฟ้องของอัยการเสียด้วย
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องว่า จำเลยกับพวกสมคบกันฉ้อโกงนายยุ่งจัง แซ่อื้อขอให้ลงโทษตามกฎหมายลักษณะอาญา มาตรา 304, 63 และขอให้จำเลยคืนหรือใช้ราคาทรัพย์
จำเลยทั้งสองปฏิเสธ
นายยุ่งจัง ผู้เสียหายขอเข้าเป็นโจทก์ร่วม ศาลอนุญาต
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่าจำเลยผิดตาม กฎหมายลักษณะอาญา มาตรา 304จำคุกคนละ 3 ปี ให้จำเลยร่วมกันคืนหรือใช้ราคาทรัพย์ 100,000 บาทแก่ผู้เสียหาย
จำเลยอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้เฉพาะนายเจริญจำเลยที่ 2 ว่าจำเลยที่ 2 ยังไม่ผิด ให้ยกฟ้องจำเลยที่ 2 นอกนี้ให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น
อัยการโจทก์และจำเลยที่ 1 ฎีกา
ในระหว่างฎีกานายยุ่งจังผู้เสียหายซึ่งเป็นโจทก์ร่วม ยื่นคำร้องขอถอนคำร้องทุกข์และขอถอนฟ้อง
คดีนี้เป็นคดีความผิดต่อส่วนตัวอันยอมความกันได้ เมื่อผู้เสียหายซึ่งร้องทุกข์และเข้าเป็นโจทก์ร่วมได้ขอถอนคำร้องทุกข์และขอถอนฟ้องคดีนี้เสียแล้วสิทธิฟ้องคดีของอัยการจึงระงับไปตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 39(2)
ศาลฎีกาจึงพิพากษายกฟ้องของอัยการเสีย