แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
ในเรื่องลักทรัพย์ กฎหมายจำแนกความผิดและกำหนดโทษหนักเบาต่างกันสุดแต่ว่าจะมีเหตุพิเศษตามที่กฎหมายกำหนดไว้
เมื่อจำเลยลักทรัพย์ของนายจ้างในเวลาค่ำคืน การกระทำของจำเลยต้องด้วยมาตรา 294 ข้อ 5 ซึ่งเป็นเหตุพิเศษประกอบกับตัวทรัพย์ที่ถูกลักและประกอบด้วย มาตรา 293 ข้อ 1 อันเป็นเหตุพิเศษประกอบอาการแห่งการลักทรัพย์นั้นด้วย จำเลยจึงมีความผิดตามมาตรา 294 วรรคท้าย
ย่อยาว
ข้อเท็จจริงคดีนี้ได้ความว่าจำเลยซึ่งเป็นลูกจ้างของนายจวงได้ลักทรัพย์สิ่งของต่าง ๆ รวม 48 บาทของนายจวงนายจ้างไปในเวลากลางคืน จำเลยเคยต้องโทษมาแล้วและไม่เข็ดหลาบ คดีมีปัญหาว่าจำเลยจะมีความผิดตามกฎหมายลักษณะอาญา มาตรา 294 วรรคต้นหรือมาตรา 294 วรรคท้ายซึ่งศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์มีความเห็นแตกต่างกัน
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่าจำเลยผิดตามมาตรา 294 วรรคต้น ให้จำคุก 6 เดือน เพิ่มโทษตามมาตรา 72 อีก 1 ใน 3 เป็น 8 เดือนลดฐานปราณีตามมาตรา 59 กึ่งหนึ่งคงเหลือโทษจำคุก 4 เดือนและของกลางคืนเจ้าทรัพย์
โจทก์อุทธรณ์ขอให้ลงโทษจำเลยตามมาตรา 294 วรรคท้าย
ศาลอุทธรณ์เห็นว่าเวลาค่ำคืนไม่ใช่เวลาปกติเข้าในลักษณะโดยอาการตามความหมายของมาตรา 294 วรรคท้าย พิพากษาแก้คำพิพากษาศาลชั้นต้นให้ลงโทษจำเลยตามมาตรา 294 วรรคท้าย วางโทษจำคุก 1 ปี4 เดือน ลดฐานปราณีตามมาตรา 59 กึ่งหนึ่งคงเหลือ 8 เดือน
จำเลยฎีกาในปัญหาข้อกฎหมายว่า จำเลยควรมีผิดตามมาตรา 294วรรคต้นตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น
ศาลฎีกาเห็นว่าเรื่องลักทรัพย์นี้กฎหมายจำแนกความผิดและกำหนดโทษหนักเบาต่างกันสุดแต่ว่าจะมีเหตุพิเศษตามที่กฎหมายกำหนดไว้คดีเรื่องนี้จำเลยได้กระทำผิดตามมาตรา 294 ข้อ 5 ซึ่งเป็นเหตุพิเศษประกอบตัวทรัพย์ที่ถูกลักและประกอบด้วยมาตรา 293 ข้อ 1 อันเป็นเหตุพิเศษประกอบอาการแห่งการลักทรัพย์นั้นด้วย จึงเป็นความผิดตามมาตรา 294 วรรคท้าย
พิพากษายืน ให้ยกฎีกาของจำเลย