แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
จำเลยถูกคนร้ายที่มีสมัครพรรคพวกหลายคนแต่ละคนมีอาวุธปืนครบมือ ใช้ปืนจี้ขู่บังคับให้เอาเรือรับส่งข้ามฟากเพื่อช่วยคนร้ายให้พ้นจากการจับกุม ดังนี้ เป็นการที่จำเลยกระทำไปเพราะอยู่ในที่บังคับหรือภายใต้อำนาจซึ่งไม่สามารถหลีกเลี่ยงขัดขืนได้ จึงเป็นการกระทำความผิดด้วย ความจำเป็น จำเลยไม่ต้องรับโทษ
เมื่อปรากฏว่าจำเลยกระทำความผิดด้วยความจำเป็น ไม่ต้องรับโทษแม้จำเลยจะไม่ได้ฎีกาขึ้นมา ศาลฎีกาก็มีอำนาจพิพากษาให้เป็นคุณแก่จำเลยได้
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยฐานช่วยเหลือผู้กระทำความผิด ต่อสู้ขัดขวางและพยายามฆ่าเจ้าพนักงานซึ่งกระทำการตามหน้าที่ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 138, 140, 189(2), 80, 83
จำเลยให้การปฏิเสธ
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่าจำเลยกระทำผิดตามฟ้อง ให้ลงโทษฐานพยายามฆ่าเจ้าพนักงานผู้กระทำการตามหน้าที่ ซึ่งเป็นกระทงหนักตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 289(2) ประกอบกับมาตรา 80, 83, 52 และ 92 จำคุก 20 ปี ลดโทษ 1 ใน 3 ตามมาตรา 78 คงจำคุก 10 ปี 4 เดือนของกลางริบ
จำเลยอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์เชื่อว่าจำเลยได้ช่วยพวกคนร้ายโดยเอาเรือมารับคนร้ายที่ยิงรถโดยสาร พาข้ามฟากเพื่อให้พ้นจากการจับกุมของเจ้าพนักงานตำรวจไม่เชื่อว่าจำเลยใช้อาวุธปืนยิงต่อสู้กับเจ้าพนักงาน พิพากษาแก้ ว่าจำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 189 จำคุก 2 ปี ลดโทษให้ 1 ใน 3 คงจำคุก 1 ปี 4 เดือน ข้อหาอื่นให้ยกของกลางริบ
โจทก์ฎีกาขอให้ลงโทษตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น
ศาลฎีกาวินิจฉัยข้อเท็จจริงว่า ประจักษ์พยานโจทก์เบิกความแตกต่างกันในข้อสำคัญเป็นพิรุธ ฉะนั้น ที่พยานตำรวจว่าเห็นจำเลยยิงปืนด้วย จึงเป็นที่น่าสงสัยอยู่มาก ยังเชื่อฟังไม่ได้ว่าจำเลยสมคบกับคนร้ายจริง
ศาลฎีกายังเห็นต่อไปว่า การที่จำเลยเอาเรือรับคนร้ายข้ามฟากนั้น จำเลยน่าจะถูกคนร้ายขู่บังคับดังที่จำเลยนำสืบ คนร้ายกลุ่มนี้มีสมัครพรรคพวกมากมาย แต่ละคนมีอาวุธปืนครบมือ ทำการเพื่อจะปล้นรถยนต์โดยสารบนท้องถนนในเวลากลางวันอย่างอุกอาจ เจ้าพนักงานตำรวจก็ยืนยันว่าในกลุ่มคนร้ายเหล่านี้ มีคนร้ายสำคัญอยู่หลายคนอาทิเช่น นายยูโซ๊ะ กูระ นายมะลาแม นายสะมาแอ โคแบสแย บางคนก็ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจยิงตายในเวลาต่อมา จำเลยซึ่งเป็นราษฎรธรรมดาในสภาพท้องถิ่นเช่นนั้น ย่อมอยู่ในวิสัยที่จะถูกคนร้ายขู่เข็ญบังคับให้กระทำตามอย่างใดก็ได้ ที่ศาลอุทธรณ์ตำหนิว่าเกิดเหตุแล้วทำไมจำเลยจึงไม่ไปแจ้งความตำรวจทันทีนั้น จำเลยก็ว่ากำลังได้รับความตกใจอย่างรุนแรง ซึ่งเป็นข้อที่น่าเห็นใจอยู่ ศาลฎีกาเชื่อว่าจำเลยถูกคนร้ายขู่บังคับจริงจำเลยกระทำด้วยความจำเป็นไม่สามารถหลีกเลี่ยงหรือขัดขืนได้ ไม่ต้องรับโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 67 แม้จำเลยจะไม่ได้ฎีกาขึ้นมา ศาลฎีกาก็มีอำนาจพิพากษาให้เป็นคุณแก่จำเลยได้
พิพากษาแก้คำพิพากษาศาลอุทธรณ์ เป็นว่า ให้ยกฟ้องของโจทก์เสียปล่อยจำเลยพ้นข้อหาไป ของกลางคงให้ริบ