คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1750/2499

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

จำเลยขนข้าวไปกองไว้ที่ริมตลิ่งแม่น้ำโขง 8 กระสอบมีข้าวอยู่กระสอบละครึ่งและมีเชือกหนึ่งเส้นยาวประมาณ 4 วากองอยู่บนกระสอบริมตลิ่ง จำเลยว่าข้าวนี้เป็นของจำเลยจะนำขนไปที่บ้าน เช่นนี้ถือว่ารูปคดียังห่างไกลกับความผิดสำเร็จในฐานนำข้าวออกนอกราชอาณาจักรเพราะยังเชื่อหรือสันนิษฐานไม่ได้แน่ว่าจำเลยจะนำลงเรือพาออกนอกพระราชอาณาจักร แม้หากจะมีเจตนาอยู่ก่อนแล้วว่าจะนำข้าวออกนอกพระราชอาณาจักรจำเลยก็อาจยับยั้งไม่กระทำดังที่ตั้งใจไว้นั้นได้ การกระทำของจำเลยจึงเป็นแต่เพียงอยู่ในขั้นตระเตรียมการและยังไม่เข้าขั้นพยายามนำข้าวออกนอกราชอาณาจักร

ย่อยาว

คดีนี้โจทก์ฟ้องว่า จำเลยนำข้าวสารเหนียว ข้าวสารจ้าวของต้องห้ามต้องควบคุมออกไปนอกประเทศหลีกเลี่ยงภาษีโดยไม่ได้รับอนุญาต ขอให้ลงโทษตาม พระราชบัญญัติศุลกากร พ.ศ. 2469 มาตรา 27, 31, 32, 45 พระราชบัญญัติศุลกากร พ.ศ. 2487 มาตรา 16, 17 พระราชบัญญัติศุลกากร (ฉบับที่ 11) พ.ศ. 2490 มาตรา 3 พระราชบัญญัติให้บำเหน็จในการปราบปราม ผู้กระทำผิด พ.ศ. 2489 มาตรา 6, 8, 9

จำเลยทั้งสองให้การปฏิเสธความผิด กล่าวว่าจำเลยที่ 1 เป็นเจ้าของข้าวรายนี้จริง เพียงแต่เคลื่อนย้ายข้าวไม่มีใบอนุญาตส่วนจำเลยที่ 2 เพียงแต่ช่วยขนหาได้นำข้าวออกนอกประเทศหลีกเลี่ยงค่าภาษีดังโจทก์ฟ้องไม่

ศาลชั้นต้นพิจารณาแล้วฟังว่าของกลางที่จับได้ในเรือและเรือยังเชื่อไม่ได้ว่าเป็นของจำเลยหรือจำเลยเตรียมไว้เพื่อข้ามฟากส่วนข้าวที่กองอยู่บนตลิ่งตามพฤติการณ์ยังสันนิษฐานหรือเชื่อไม่ได้ว่าจำเลยจะนำออกนอกราชอาณาจักรหรือเป็นพฤติการณ์ที่จำเลยพยายามนำออกนอกอันจะพึงถือได้ว่าเป็นความผิดสำเร็จจำเลยยังไม่ความผิดดังโจทก์ฟ้อง พิพากษาให้ยกฟ้อง ของกลางที่จับได้คืนเจ้าของ

โจทก์อุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน

โจทก์ฎีกาเป็นปัญหาข้อกฎหมายว่าการกระทำของจำเลยชี้เจตนาให้เห็นชัดแจ้งว่าจำเลยจะนำข้าวออกนอกประเทศแล้วและได้ดำเนินการไปแล้วแต่เอาไปไม่ได้ เพราะถูกจับเสียก่อนเป็นการกระทำเข้าขั้นพยายามนำเอาข้าวออกนอกประเทศอันถือได้ว่าเป็นความผิดสำเร็จตามพระราชบัญญัติศุลกากร พ.ศ. 2469 มาตรา 27

ศาลฎีกาได้ตรวจสำนวนและประชุมปรึกษาแล้ว เฉพาะข้อเท็จจริงในเรื่องเรือและข้าวสารที่อยู่ในเรือฟังไม่ได้ว่าเป็นของจำเลยจึงยุติเพียงแค่ศาลอุทธรณ์ แต่ข้าว 8 กระสอบและมีข้าวอยู่กระสอบละครึ่งและมีเชือก 1 เส้นยาวประมาณ 4 วา กองอยู่บนกระสอบริมตลิ่งจำเลยรับว่าเป็นของจำเลย แต่นำสืบปฏิเสธว่าจำนำข้าวขนไปที่บ้านไม่ได้นำ ออกนอกประเทศ

ศาลฎีกาเห็นว่าข้อเท็จจริงได้ความเพียงเท่านี้ คดียังห่างไกลกับความจริงผิดสำเร็จในฐานนำข้าวออกนอกพระราชอาณาจักร เพราะยังเชื่อหรือสันนิษฐานไม่ได้แน่ว่าจำเลยจะนำลงเรือพาออกนอกพระราชอาณาจักร แม้หากจำเลยมีเจตนาอยู่ก่อนแล้วว่าจะนำข้าวสารออกไปนอกพระราชอาณาจักร จำเลยก็อาจยับยั้งไม่กระทำดังที่ตั้งใจไว้นั้นก็ได้ การกระทำของจำเลยยังถือไม่ได้ว่าเข้าขั้นพยายามนำข้าวออกนอกพระราชอาณาจักร อันจะเป็นความผิดตาม พระราชบัญญัติศุลกากร พ.ศ. 2469 มาตรา 27 ดังฟ้องโจทก์ ศาลล่างพิพากษายกฟ้องชอบแล้ว จึงพิพากษายืน ให้ยกฎีกาโจทก์

Share