คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1747/2536

แหล่งที่มา : สำนักงานส่งเสริมงานตุลาการ

ย่อสั้น

เมื่อผู้ร้องไม่ได้ปฏิเสธต่อเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ภายในกำหนดเวลา 14 วัน นับจากวันที่ผู้ร้องได้รับหนังสือทวงหนี้นั้นต้องถือว่าผู้ร้องเป็นหนี้กองทรัพย์สินของจำเลยอยู่ตามจำนวนที่เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์แจ้งไปยังผู้ร้องเป็นการเด็ดขาด ทั้งนี้ตามพระราชบัญญัติ ล้มละลาย พ.ศ. 2483 มาตรา 119 วรรคแรก ผู้ร้องจึงไม่มีสิทธิที่จะมาร้องขอต่อศาลให้วินิจฉัยว่า เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์มีหนังสือทวงหนี้ไปยังผู้ร้องโดยไม่ชอบเพราะผู้ร้องไม่ได้เป็นหนี้จำเลย หรือจำเลยไม่มีสิทธิเรียกค่าธรรมเนียมสำหรับหนี้ที่ค้างชำระ อันเป็นการคัดค้านว่าผู้ร้องไม่ได้เป็นหนี้กองทรัพย์สินของจำเลยตามจำนวนที่เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์แจ้งไปยังผู้ร้อง ซึ่งขัดต่อ มาตรา 119 วรรคแรกดังกล่าว

ย่อยาว

คดีสืบเนื่องจากเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์เห็นว่าผู้ร้องเป็นหนี้กองทรัพย์สินของจำเลยตามจำนวนที่แจ้งไปเป็นการเด็ดขาดจึงขอศาลออกคำบังคับกับให้ผู้ร้องชำระหนี้แก่เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ ขอให้มีคำสั่งยกเลิกบังคับและจำหน่ายชื่อผู้ร้องออกจากบัญชีลูกหนี้
เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ผู้คัดค้านยื่นคำคัดค้าน ขอให้ยกคำร้อง
ศาลชั้นต้นมีคำสั่งให้ยกคำร้อง
ผู้ร้องอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
ผู้ร้องฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า “การที่ผู้ร้องมีหนังสือปฏิเสธหนี้ตามเอกสารหมาย ค.3 ต่อเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์เมื่อวันที่ 4 สิงหาคม2531 จึงเป็นการปฏิเสธหนี้ เมื่อพ้นกำหนดเวลา 14 วัน นับจากวันที่ผู้ร้องได้รับหนังสือทวงหนี้เอกสารหมาย ค.2 ฎีกาของผู้ร้องในปัญหานี้ฟังไม่ขึ้น ส่วนที่ผู้ร้องฎีกาต่อไปความว่า ศาลอุทธรณ์วินิจฉัยคดีไม่ชอบ เนื่องจากไม่ได้วินิจฉัยประเด็นตามอุทธรณ์ของผู้ร้องที่ว่าเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์มีหนังสือทวงหนี้ไปยังผู้ร้องโดยไม่ชอบ ผู้ร้องไม่ได้เป็นหนี้จำเลย และจำเลยไม่มีสิทธิเรียกค่าธรรมเนียมสำหรับหนี้ที่ค้างชำระนั้น เห็นว่าจากข้อเท็จจริงดังวินิจฉัยแล้วข้างต้นได้ความว่า ผู้ร้องไม่ได้ปฏิเสธหนี้ต่อเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ภายในกำหนดเวลา 14 วัน นับจากวันที่ผู้ร้องได้รับหนังสือทวงหนี้นั้นต้องถือว่าผู้ร้องเป็นหนี้กองทรัพย์สินของจำเลยอยู่ตามจำนวนที่เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์แจ้งไปยังผู้ร้องตามเอกสารหมาย ค.2 เป็นการเด็ดขาด ทั้งนี้ตามพระราชบัญญัติ ล้มละลาย พ.ศ. 2483 มาตรา 119 วรรคแรก ผู้ร้องจึงไม่มีสิทธิที่จะมาร้องขอต่อศาลให้วินิจฉัยว่า เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์มีหนังสือทวงหนี้ไปยังผู้ร้องโดยไม่ชอบ เพราะผู้ร้องไม่ได้เป็นหนี้จำเลย หรือจำเลยไม่มีสิทธิเรียกค่าธรรมเนียมสำหรับหนี้ที่ค้างชำระ อันเป็นการคัดค้านว่าผู้ร้องไม่ได้เป็นหนี้กองทรัพย์สินของจำเลยตามจำนวนที่เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์แจ้งไปยังผู้ร้องซึ่งขัดต่อพระราชบัญญัติล้มละลาย พ.ศ. 2483 มาตรา119 วรรคแรก ดังกล่าว ศาลอุทธรณ์จึงชอบที่จะไม่วินิจฉัยประเด็นตามอุทธรณ์ของผู้ร้องดังกล่าว ฎีกาของผู้ร้องในปัญหานี้ฟังไม่ขึ้นเช่นกัน”
พิพากษายืน

Share