คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1745/2497

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

การมีไม้สักแปรรูปไว้ในครอบครองเกิน 0.20 เมตรลูกบาศก์โดยมิได้รับอนุญาตเป็นการผิดพระราชบัญญัติป่าไม้ พ.ศ.2484 มาตรา 48 ฉะนั้นไม้สักของกลางต้องริบ และในฟ้องไม่ต้องกล่าวว่าไม้สักรายนี้เป็นไม้หวงห้าม เพราะพระราชบัญญัติป่าไม้ (ฉบับที่ 3)2494 มาตรา 4 บัญญัติว่าไม้สักเป็นไม้หวงห้ามทั้งสิ้น

ย่อยาว

คดีนี้โจทก์ฟ้องว่าจำเลยสมคบกันมีไม้สักแปรรูป มีเนื้อไม้ 3.19 เมตรลูกบาศก์ไว้ในครอบครองโดยมิได้รับอนุญาตจากเจ้าพนักงานและนำเคลื่อนที่โดยไม่มีใบเบิกทาง ขอให้ลงโทษ

จำเลยทั้งสองรับว่า มีไม้สักแปรรูปจำนวนดังฟ้อง แต่การกระทำของจำเลยไม่เป็นผิดเพราะไม้สักดังกล่าวมิใช่ไม้หวงห้าม

ศาลชั้นต้นพิพากษาว่าจำเลยมีความผิดตามพระราชบัญญัติป่าไม้พ.ศ. 2484 มาตรา 48 กระทงเดียว และศาลอุทธรณ์พิพากษายืน

จำเลยฎีกา

ศาลฎีกาเห็นว่าฎีกาข้อ ก.ของจำเลยที่คัดค้านว่าฟ้องโจทก์ไม่ชอบด้วยประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 158(2) เพราะไม่กล่าวรายละเอียดในฟ้องว่าไม้สักของกลางเป็นไม้หวงห้ามหรือไม่นั้นพระราชบัญญัติป่าไม้ พ.ศ. 2484 มาตรา 7 ที่แก้ไขใหม่ตามพระราชบัญญัติป่าไม้ (ฉบับที่ 3) พ.ศ. 2494 มาตรา 4 นั้น ไม้สักเป็นไม้หวงห้ามทั้งสิ้น ฉะนั้นโจทก์จึงไม่จำต้องกล่าวในฟ้องว่าไม้สักของกลางในคดีนี้เป็นไม้หวงห้าม

และเห็นว่าการมีไม้แปรรูปไว้ในครอบครองเกิน 0.20 เมตรลูกบาศก์ภายในเขตควบคุมการแปรรูปไม้โดยมิได้รับอนุญาตเป็นการผิดพระราชบัญญัติป่าไม้ พ.ศ. 2484 มาตรา 48 ฉะนั้นไม้ของกลางในคดีนี้จึงเป็นไม้ที่มีไว้หรือได้มาเนื่องจากการกระทำผิดพระราชบัญญัติป่าไม้ ต้องริบ

พิพากษายืน ให้ยกฎีกาจำเลย

Share