คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 174/2488

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

การที่สามีไปต่างประเทศถือว่าเป็นการละทิ้งภรรยา ภรรยาจึงไม่มีอำนาจทำการผูกพันสินบริคณห์ตามลำพัง
ภรรยาได้รับอนุญาตให้ค้าโลงศพ จะเอาห้องที่เช่าทำการค้านั้นไปให้เช่าไม่ได้ เพราะเป็นการนอกกิจการค้า

ย่อยาว

จำเลยทั้งสองเป็นสามีภรรยากันเป็นเจ้าของเช่าห้องค้าโลงใส่ศพ ต่อมาสามีไปประเทศจีน นางเซียมเองภริยาก็ยังทำการค้าอยู่ ต่อมาทำสัญญาให้โจทก์เช่าช่วงตั้งร้านดัดผม โดยนางเซียมเองภริยาเป็นเจ้าของเครื่องอุปกรณ์ต่างๆ โจทก์ก็เพียงออกหน้าทำการดัดเท่านั้น เพราะนางเซียมเองเป็นชนต่างด้าวห้ามตามกฎหมายมิให้ประกอบอาชีพนี้ในขณะนั้น สามีจำเลยกลับมาและบอกล้างสัญญานั้น โจทก์จึงฟ้องคดีนี้
ศาลล่างทั้ง ๒ เห็นว่าการที่สามีไปต่างประเทศมิได้ละทิ้งภรรยาๆ ไม่มีอำนาจทำสัญญาให้โจทก์เช่าห้องโดยลำพัง เมื่อสามีบอกล้างแล้วสัญญานั้นก็ตกเป็นโมฆะ และสัญญาตั้งร้านดัดผมก็เป็นนิติกรรมอำพราง พิพากษายกฟ้อง
โจทก์ฎีกา ศาลฎีกาเห็นว่าแม้ทำสัญญาเช่ากันจริง การไปต่างประเทศของสามีก็มิได้เป็นการละทิ้งภริยา ภริยาจึงไม่มีสิทธิทำสัญญาเช่าช่วงห้องอันเป็นกรผูกพันสินบริคณห์โดยมิได้รับอนุญาตจากสามีก่อน สามีมีสิทธิ์บอกล้างสัญญานั้นได้ และแม้จะฟังว่าสามีอนุญาตให้ทำการค้าโรงใส่ศพก็ตาม สัญญาเช่าช่วงก็มิได้อยู่ในขอบแห่งกิจการค้าของโลงศพแต่อย่างได จึงมิได้ตกอยู่ในบทบัญญัติแห่งประมวลแพ่ง ฯ ม.๔๑ วรรค ๑ และฟังว่าการตั้งร้านดัดผมระหว่างนางเซียมเองกับโจทก์ เป็นเพียงให้โจทก์บังหน้าในการที่นางเซียมเองจะเปิดร้านดัดผม จึงพิพากษายืน

Share