แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
ความว่า จำเลยที่ 2 ที่ 3 ที่ 4 ฎีกา มีทางชนะคดีหากโจทก์ดำเนินการจัดการมรดกโดยคดียังไม่ถึงที่สุด จะทำให้ เกิดความเสียหายแก่จำเลยที่ 2 ที่ 3 ที่ 4 โปรดมีคำสั่ง ห้ามโจทก์จัดการทรัพย์มรดกในระหว่างการพิจารณาของศาลฎีกา
หมายเหตุ โจทก์แถลงคัดค้าน (อันดับ 246)
คดีทั้งสองสำนวน ศาลชั้นต้นพิจารณาพิพากษารวมกันโดยให้ เรียกโจทก์ในสำนวนหลังว่าโจทก์ จำเลยทั้งสี่ในสำนวนหลังว่า จำเลยที่ 1 ถึงที่ 4 ตามลำดับ
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า พินัยกรรมฉบับลงวันที่ 7 เมษายน 2531 เป็นพินัยกรรมที่สมบูรณ์ตามกฎหมายของนางเล็ก หยกมณี เจ้ามรดก พินัยกรรมฉบับลงวันที่ 1 ธันวาคม 2529ถูกเพิกถอน โดยพินัยกรรมฉบับลงวันที่ 7 เมษายน 2531สิ้นผลบังคับยกคำร้อง ของจำเลยที่ 4 ที่ขอเป็นผู้จัดการมรดก และอาศัยอำนาจ ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1711,1713 แต่งตั้ง ให้โจทก์เป็นผู้จัดการมรดกของนางเล็ก หยกมณีผู้วายชนม์โดยให้มีสิทธิและหน้าที่ตามกฎหมาย
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
จำเลยที่ 2 ที่ 3 ที่ 4 ฎีกา พร้อมกับยื่นคำร้องนี้(อันดับ 242,241)
ชั้นอุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์สั่งว่า ผู้จัดการมรดกมีสิทธิ และ หน้าที่ตามกฎหมายเพื่อรวบรวมทรัพย์มรดกแบ่งปันทายาท สิทธิของจำเลยที่ 2 ที่ 3 ที่ 4 มีอยู่อย่างไรก็คงอยู่อย่างนั้นไม่เสียประโยชน์ จึงไม่มีเหตุจะคุ้มครองประโยชน์ของจำเลยที่ 2 ที่ 3 ที่ 4 ให้ยกคำร้อง (อันดับ 216)
คำสั่ง
คดีนี้เป็นเรื่องร้องขอให้ศาลตั้งผู้จัดการมรดก ซึ่ง ผู้จัดการมรดกมีสิทธิและหน้าที่ตามที่กฎหมายบัญญัติไว้สิทธิของจำเลยที่ 2 ที่ 3 ที่ 4 ในกองมรดกมีอยู่อย่างไรก็คงมีอยู่อย่างนั้น ไม่ทำให้เสียประโยชน์จึงไม่มีเหตุที่จะ คุ้มครองประโยชน์ของจำเลยที่ 2 ที่ 3 ที่ 4 ในระหว่างฎีกาให้ยกคำร้อง ค่าคำร้องเป็นพับ