แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่าจำเลยผิดตาม กฎหมายลักษณะอาญามาตรา 131 ถึง 4 กระทง จำคุก 5 ปี ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้ว่าจำเลยผิดตามมาตรา 131 เพียงกระทงเดียวจำคุก 2 ปี ดังนี้ ถือว่าแก้ไขมาก ฎีกาในข้อเท็จจริงได้
ย่อยาว
คดีนี้ มีปัญหามาสู่ศาลฎีกาเฉพาะจำเลยที่ 1 โดยศาลทหารกรุงเทพฯพิพากษาลงโทษจำเลยที่ 1 ฐานเป็นเจ้าพนักงานยักยอกตามกฎหมายลักษณะอาญา มาตรา 131 รวม 4 กระทง กระทงแรกให้จำคุก 2 ปี อีก 3 กระทง จำคุกกระทงละ 1 ปี ผิดตามมาตรา 225(1) ฐานปลอมหนังสือสำคัญ จำคุก 1 ปี ผิดฐานทำลายซ่อนเร้นหนังสือสำคัญในราชการตามมาตรา 129 ให้จำคุก 3 เดือน รวมโทษ 6 กระทง เป็น 6 ปี 3 เดือน
จำเลยอุทธรณ์
ศาลทหารกลางพิพากษาแก้ว่า จำเลยที่ 1 ผิดฐานเป็นเจ้าพนักงานยักยอกตามมาตรา 131 เพียง 1 กระทง ให้จำคุก 2 ปี นอกนั้นยืนตามศาลทหารกรุงเทพฯ
จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาเห็นว่า ความผิดฐานเป็นเจ้าพนักงานยักยอกตามมาตรา 131นั้น ศาลทหารกลางพิพากษาบทกฎหมายที่ศาลชั้นต้นวางโทษไว้ 4 กระทงเหลือแต่เพียงกระทงเดียว เรียกว่าแก้ไขมาก เพราะแก้ทั้งบทและกำหนดโทษจำเลยฎีกาข้อเท็จจริงได้ ส่วนในข้อหาอื่นฎีกาในข้อเท็จจริงไม่ได้
เมื่อพิจารณาข้อเท็จจริงในเรื่องยักยอกแล้ว เห็นว่าจำเลยกระทำผิดจริง จึงพิพากษายืน