แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
จำเลยยื่นคำร้องว่าห้องที่โจทก์จะจัดให้จำเลยเช่าตามสัญญาประนีประนอมยอมความมีความกว้างเพียง 2.20 เมตรผิดไปจากข้อตกลง โจทก์จึงยื่นคำคัดค้านและว่าห้องที่จำเลยอ้างมิใช่ห้องที่จะจัดให้จำเลยเช่า โจทก์จะจัดให้จำเลยได้ตึกแถว 2 ชั้นที่ก่อสร้างขึ้นใหม่ 1 ห้องมีความกว้าง 3.50 เมตรตามข้อตกลงคู่ความแถลงว่า กรณีอาจตกลงกันได้ แล้วคู่ความได้ยื่นคำแถลงร่วมกันว่าโจทก์ตกลงให้จำเลยเช่าตึกแถว 2 ชั้น 1 ห้องกว้างไม่น้อยกว่า3.50 เมตรลึกประมาณ 9 เมตร ต่อมาจำเลยยื่นคำร้องว่าจำเลยได้ตรวจตึกแถวที่โจทก์จะให้จำเลยเช่า ปรากฏว่าด้านหลังมีความกว้างเพียง 3 เมตร และไม่ถูกต้องตามแบบแปลน ห้องชั้นล่างไม่มีช่องระบายอากาศ ไม่มีประตู ไม่มีท่อระบายน้ำ ดังนี้ เห็นว่าจำเลยตั้งประเด็นตามคำร้องฉบับนี้ขึ้น 5 ประการ คือ ความกว้างของตึกด้านหลัง การก่อสร้างผิดแบบแปลน ห้องชั้นล่างไม่มีช่องระบายอากาศ ไม่มีประตู ไม่มีท่อระบายน้ำ โจทก์แถลงรับว่ายังไม่ได้ทำช่องระบายอากาศ เพราะติดอาคารโรงแรม ถ้าจำเลยมีความประสงค์ก็จะทำให้ ส่วนประตูกับท่อระบายน้ำมีแล้ว จำเลยแถลงขอเวลาไปตรวจสอบอีกครั้งหนึ่งจะแถลงในนัดต่อไป ต่อมาคู่ความแถลงตกลงกันให้สถาปนิกแก้ไขให้มีช่องลมหรือหน้าต่างเฉพาะห้องชั้นที่สองดังนี้ เห็นได้ว่าจำเลยติดใจในประเด็นที่ว่า จะให้สถาปนิกแก้ไข ให้มีช่องลมหรือหน้าต่างเฉพาะห้องชั้นที่สองเท่านั้น ส่วนประเด็นที่จำเลยอ้างว่าด้านหลังห้องมีความกว้างเพียง 3 เมตรก็ดีการก่อสร้างไม่ถูกแบบแปลนก็ดี จำเลยไม่ติดใจต่อไปแล้วจำเลยจะกลับยกขึ้นมาเป็นประเด็นอีกหาได้ไม่
ข้อที่ว่า จนบัดนี้เป็นเวลาเกิน 1 ปีตามสัญญาประนีประนอมยอมความจำเลยยังไม่ได้รับมอบห้องแถวดังที่ตกลงไว้นั้น จำเลยมิได้ยกขึ้นกล่าวอ้างในคำร้องที่อ้างว่า โจทก์ปฏิบัติผิดจากสัญญาประนีประนอมยอมความเป็นเรื่องนอกประเด็น ศาลฎีกาไม่วินิจฉัยให้
ย่อยาว
คดีนี้ ได้พิพาทกันในชั้นบังคับคดีมูลเหตุของกรณีนี้เนื่องมาจากในชั้นแรกจำเลยยื่นคำร้องเมื่อวันที่ 12 กันยายน 2510 ว่าห้องที่โจทก์จะจัดให้จำเลยเช่าตามสัญญาประนีประนอมยอมความระหว่างโจทก์จำเลย มีความกว้างเพียง 2.20 เมตร ผิดจากข้อตกลง โจทก์จึงยื่นคำคัดค้านคำร้องของจำเลยว่าห้องที่จำเลยอ้างมิใช่ห้องที่จะจัดให้จำเลยเช่า โจทก์จะจัดให้จำเลยได้ตึกแถว 2 ชั้น ที่ก่อสร้างขึ้นใหม่ 1 ห้องมีความกว้าง 3.50 เมตร ตามข้อตกลงตามรายงานกระบวนพิจารณาลงวันที่ 12 ตุลาคม 2510 คู่ความแถลงว่ากรณีอาจตกลงกันได้ทั้งสองฝ่ายจะได้แถลงร่วมกันเพื่อรวมสำนวน ในวันเดียวกันนั้น คู่ความได้ยื่นคำแถลงร่วมกันว่า โจทก์ตกลงให้จำเลยเช่าตึกแถว 2 ชั้น 1 ห้องกว้างไม่น้อยกว่า 3.50 เมตร ลึกประมาณ 9 เมตร
ต่อมาจำเลยยื่นคำร้องลงวันที่ 24 มิถุนายน 2511 ว่า จำเลยได้ตรวจตึกแถวที่โจทก์จะให้จำเลยเช่าปรากฏว่าด้านหลังมีความกว้างเพียง 3 เมตร และไม่ถูกต้องตามแบบแปลน ห้องชั้นล่างไม่มีช่องระบายอากาศ ไม่มีประตู ไม่มีท่อระบายน้ำตามรายงานกระบวนพิจารณาที่ศาลนัดพร้อมลงวันที่ 23 กรกฎาคม 2511 โจทก์แถลงรับว่ายังไม่ได้ทำช่องระบายอากาศเพราะติดอาคารโรงแรม ถ้าจำเลยมีความประสงค์ก็จะทำให้ ส่วนประตูกับท่อระบายน้ำมีแล้ว จำเลยแถลงขอเวลาไปตรวจสอบอีกครั้งหนึ่งจะแถลงในนัดต่อไป
จำเลยยื่นคำร้องลงวันที่ 10 กันยายน 2511 ว่า ห้องที่โจทก์จะจัดให้เช่านั้นก่อสร้างไม่ถูกต้องตามแบบแปลน เพราะด้านหลังห้องกว้างเพียง 3 เมตร ไม่มีช่องระบายอากาศ ไม่มีหน้าต่าง ไม่มีท่อระบายน้ำ ฯลฯ โจทก์ผิดสัญญาประนีประนอมยอมความ ขอให้สั่งปรับโจทก์ 250,000 บาท กับคืนเงินช่วยค่าก่อสร้างให้จำเลยหรือให้โจทก์แก้ไขห้องให้ได้ขนาดเท่าที่ตกลงกัน
ศาลชั้นต้นสั่งยกคำร้อง
จำเลยอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาเห็นว่า จำเลยตั้งประเด็นตามคำร้องลงวันที่ 24 มิถุนายน 2511 ขึ้น 5 ประการ คือ ความกว้างของตึกด้านหลังการก่อสร้างผิดแบบแปลน ห้องชั้นล่างไม่มีช่องระบายอากาศ ไม่มีประตู ไม่มีท่อระบายน้ำ แต่ตามรายงานกระบวนพิจารณาซึ่งเป็นวันนัดพร้อมลงวันที่ 7 สิงหาคม2511 คู่ความแถลงตกลงกันจะให้สถาปนิกแก้ไขให้มีช่องลมหรือหน้าต่างเฉพาะห้องชั้นที่สอง ส่วนด้านหลังมีร้านกาแฟเปิดเข้าออกไม่ได้ เห็นได้ว่าจำเลยคงติดใจในประเด็นที่ว่าจะให้สถาปนิกแก้ไข ให้มีช่องลมหรือหน้าต่างเฉพาะห้องชั้นที่สอง ส่วนด้านหลังมีร้านกาแฟเปิดเข้าออกไม่ได้เท่านั้น แสดงว่าประเด็นที่จำเลยอ้างว่าด้านหลังห้องกว้างเพียง 3 เมตรก็ดี การก่อสร้างไม่ถูกต้องตามแบบก็ดี จำเลยไม่ติดใจต่อไปแล้วจะกลับยกขึ้นมาเป็นประเด็นอีกหาได้ไม่
ฎีกาจำเลยที่ว่า จนบัดนี้เป็นเวลาเกิน 1 ปีตามสัญญาประนีประนอมยอมความ จำเลยยังมิได้รับมอบห้องแถวดังที่ตกลงไว้นั้น ประเด็นนี้จำเลยมิได้ยกขึ้นกล่าวอ้างไว้ในคำร้องที่อ้างว่าโจทก์ปฏิบัติผิดจากสัญญาประนีประนอมยอมความ เป็นเรื่องนอกประเด็นเช่นเดียวกัน ศาลฎีกาไม่วินิจฉัยให้
พิพากษายืน