คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 173/2520

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

++ เรื่อง ความผิดต่อพระราชบัญญัติป่าไม้ (ชั้นขอคืนของกลาง) ++
++ โจทก์ฎีกา ++
++
++ คำพิพากษาสั่งออก – รอย่อ
++ แจ้งการอ่านแล้ว / โปรดติดต่อห้องบริการเอกสารสำเนาคำพิพากษา (ห้องสมุด) ชั้น 4, 5 ++
++
ผู้ร้องร้องขอคืนของกลางที่ศาลสั่งริบ โจทก์คัดค้านเป็นคดีพิพาทกันเรื่องขอให้คืนของกลาง เมื่อศาลอุทธรณ์พิพากษาให้ยกคำร้องเพราะในคดีอาญาเดิมศาลชั้นต้นมิได้มีคำพิพากษาให้ริบของกลางและผู้ร้องก็ไม่ได้ฎีกาต่อมา คดีเรื่องที่ผู้ร้องขอคืนของกลางย่อมเป็นอันยุติ ไม่มีข้อที่โจทก์จะต้องพิพาทโต้แย้งต่อไปอีกในชั้นนี้ ถ้าหากคำพิพากษาในคดีอาญาเดิมของศาลชั้นต้นมีข้อผิดพลาดบกพร่องอย่างไรก็ชอบที่โจทก์จะต้องไปว่ากล่าวในคดีเดิมนั้น ศาลฎีกาวินิจฉัยให้ในคดีนี้ไม่ได้
หมายเหตุ : ศาลอุทธรณ์เห็นว่า ในคดีอาญาเดิมศาลชั้นต้นไม่ได้มีคำพิพากษาให้ริบของกลาง คดีไม่มีความจำเป็นต้องวินิจฉัย พิพากษาให้ยกอุทธรณ์ของโจทก์ตลอดจนถึงคำร้องของผู้ร้องด้วย

ย่อยาว

ผู้ร้องร้องว่า เรือยนต์ ๒ ลำ เครื่องยนต์ ๒ เครื่องของกลางที่ศาลสั่งริบในคดีความผิดต่อพระราชบัญญัติป่าไม้เป็นของผู้ร้อง ผู้ร้องมิได้รู้เห็นเป็นใจในการกระทำความผิด ขอให้สั่งคืนแก่ผู้ร้อง
โจทก์คัดค้าน
ศาลชั้นต้นไต่สวนแล้ว สั่งให้คืนของกลางแก่ผู้ร้อง
โจทก์อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์เห็นว่า ในคดีอาญาเดิมศาลชั้นต้นไม่ได้มีคำพิพากษาให้ริบของกลาง คดีไม่มีความจำเป็นต้องวินิจฉัย พิพากษาให้ยกอุทธรณ์ของโจทก์ตลอดจนถึงคำร้องของผู้ร้องด้วย
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาพิพากษาว่า คดีนี้พิพาทกันเรื่องขอให้คืนของกลาง เมื่อศาลอุทธรณ์ได้พิพากษาให้ยกคำร้องของผู้ร้องเสีย และผู้ร้องมิได้ฎีกาต่อมา คดีเรื่องที่ผู้ร้องขอคืนของกลางก็ย่อมเป็นอันยุติ ไม่มีข้อที่โจทก์จะต้องพิพาทโต้แย้งต่อไปอีกในชั้นนี้ ถ้าหากคำพิพากษาในคดีอาญาเดิมมีข้อผิดพลาดบกพร่องอย่างไรก็ชอบที่โจทก์จะต้องไปว่ากล่าวในคดีเดิมนั้น ศาลฎีกาจะวินิจฉัยให้ในคดีนี้ไม่ได้ ให้ยกฎีกาของโจทก์เสีย

Share