แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
สัญญาซื้อขายมีข้อความว่า ถ้าไม่ถูกตัดถนนต้องนำเงินมาชำระจำนวนหนึ่ง ถ้าถูกตัดถนนไม่ต้องใช้เงินจำนวนนี้ โจทก์จะนำพยานบุคคลมาสืบว่ายังมีข้อตกลงในเรื่องการตัดถนนในระยะเวลา 1 ปีด้วย นำสืบไม่ได้ ต้องห้าม.
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องว่า เมื่อต้นเดือน มกราคม ๒๔๙๖ จำเลยตกลงซื้อที่ดินของโจทก์โฉนด ๒๖๖๒ อำเภอป้อมปราบสตรูพ่าย เนื้อที่ ๑๔ ตารางวา พร้อมสิ่งปลูกสร้างซึ่งอยู่ในระหว่างถูกเวนคืนเพื่อสร้างและขยายทางหลวงเทศบาลในบริเวณเพลิงไหม้ในราคา ๒๖,๐๐๐ บาท เพื่อจำเลยเอาไปขายให้ผู้อื่นหากำไรต่อไป จำเลยวางมัดจำไว้ ๖,๐๐๐ บาท ส่วนราคาที่ค้างชำระภายหลัง โจทก์มอบโฉนดให้จำเลยไป ต่อมา ๑๓ ม.ค. ๙๖ จำเลยมาแจ้งต่อโจทก์ว่า ให้โจทก์ลงชื่อในใบมอบฉันทะให้จำเลย เมื่อจะขายผู้ใดจะได้ไม่ต้องรบกวน โจทก์จึงลงชื่อให้ไป ครั้น ๑๗ ม.ค. ๙๖ จำเลยมาบอกว่า ถ้าจำเลยขายที่รายนี้ไม่ได้ก่อนที่ทางการลงมือทำการสร้างขยายทางหลวงตามที่เวนคืนจำเลยจะขาดทุนมาก จึงขอร้องต่อโจทก์ว่า ถ้าทางการลงมือสร้างขยายถนนภายใน ๑ ปี ขอให้โจทก์ลดราคาลง ๑๔,๐๐๐ บาท หากไม่ถูกตัดถนนจำเลยต้องให้เงินโจทก์ ๑๔,๐๐๐ บาท ตามที่ตกลงไว้เดิม โจทก์ตกลงและได้ทำหนังสือกันไว้ ต่อมา ธ.ค. ๙๗ จำเลยไปทำสัญญาขายแก่นางประนอม ลือประเสริฐ เป็นราคา ๔๓,๐๐๐ บาท ครั้นระยะเวลา ๑ ปี ผ่านพ้นไปแล้ว ที่ดินยังมิได้ถูกสร้างขยายทาง โจทก์ทวงจำเลยชำระเงิน ๒๐,๐๐๐ บาทที่ค้าง จำเลยเพิกเฉย ถือว่าจำเลยผิดสัญญา โจทก์จึงบอกเลิกสัญญาริบเงินมัดจำ ๖,๐๐๐ บาท และแจ้งให้จำเลยส่งมอบที่ดินและโฉนดคืนโจทก์ ต่อมา ๒๗ ก.พ. ๙๙ จำเลยสมคบกับนายสอาดโดยเอาใบมอบฉันทะกรอกข้อความโอนขายให้นายสอาดอีกต่อหนึ่งโดยทุจริต ทั้งนี้ ภายหลังที่บอกเลิกสัญญาริบเงินมัดจำแล้วขอให้ศาลบังคับจำเลยใช้ค่าเสียหาย ๒๖,๐๐๐ บาท พร้อมดอกเบี้ยแก่โจทก์
จำเลยต่อสู้ว่า จำเลยชำระราคาให้โจทก์ครบถ้วนแล้ว โจทก์ทำใบมอบฉันทะให้จำเลยไปโอนได้ตามความประสงค์ ตามเอกสารท้ายฟ้องเป็นเรื่องที่จำเลยจะให้เงินโจทก์อีก ๑๔,๐๐๐ บาท ในเมื่อที่พิพาท ๑๔ ตารางวา ไม่ถูกตัดถนน แต่ที่พิพาทถูกเวนคืนตัดถนนจำเลยจึงไม่มีพันธะอะไรที่ต้องจ่ายเงินให้โจทก์
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน ศาลชั้นต้นยกฟ้องโจทก์
โจทก์ฎีกาต่อมา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า เอกสารมีข้อความว่า จำเลยได้ซื้อแปลงนี้ที่วงเวียน เนื้อที่ ๑๔ ตารางวา ถ้าไม่ถูกตัดถนนจำเลยต้องนำเงินมาชำระโจทก์อีก ๑๔,๐๐๐ บาท ถ้าถูกตัดถนนก็เป็นอันไม่ต้องใช้เงินจำนวนนี้ ดังนี้ ไม่มีข้อความระบุกำหนดเวลา ๑ ปีไว้ ศาลจะรับฟังข้อเท็จจริงจากพยานบุคคลว่า ยังมีข้อตกลงในเรื่องการตัดถนนในระยะ ๑ ปี ไม่ได้ ต้องห้ามตาม ป.วิ.แพ่ง ม.๙๔ ฟังว่า จำเลยไม่ได้ผิดสัญญาต้องชำระเงินให้โจทก์ พิพากษายืน