คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 172/2540

แหล่งที่มา : สำนักงานส่งเสริมงานตุลาการ

ย่อสั้น

การจดทะเบียนภารจำยอมในที่ดินของโจทก์ระบุไว้ชัดแจ้งว่าเป็นภารจำยอมเรื่องทางเดินทั้งแปลงการวางท่อระบายน้ำระบบประปาไฟฟ้าและระบบสาธารณูปโภคอื่นการที่จำเลยทั้งสี่จ้างรถบรรทุกดินเข้ามาถมที่ดินของจำเลยทั้งสี่ซึ่งมีจำนวนหลายไร่ถือได้ว่าเป็นการใช้ทางภารจำยอมเกินควรกว่าปกติย่อมทำให้เกิดภาระเพิ่มขึ้นแก่ภารยทรัพย์จำเลยทั้งสี่ซึ่งเป็นเจ้าของสามยทรัพย์ไม่มีสิทธิที่จะทำได้การที่โจทก์นำหลักปักกีดขวางมิให้รถบรรทุกดินแล่นผ่านที่ภารยทรัพย์เข้าไปถมที่ดินของจำเลยทั้งสี่จึงไม่เป็นการละเมิดต่อจำเลยทั้งสี่

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องและแก้ไขคำฟ้องว่า โจทก์ซึ่งเป็นเจ้าของที่ดินโฉนดเลขที่ 1901, 67421 และ 131867 ได้จดทะเบียนตกเป็นภารจำยอมเรื่องทางเดิน ทางระบายน้ำ ประปา ไฟฟ้า โทรศัพท์และสาธารณูปโภคอื่น ๆ ของที่ดินโฉนดเลขที่ 160024 ของจำเลยทั้งสี่ซึ่งอยู่ติดกันเมื่อประมาณเดือนธันวาคม 2533 ถึงเดือนมกราคม 2534 จำเลยทั้งสี่ได้ว่าจ้างให้รถบรรทุกดินเข้าไปถมที่ดินโฉนดเลขที่ 160025 ของจำเลยทั้งสี่ซึ่งเป็นที่ดินติดต่อกับที่ดินโฉนดเลขที่ 160024เป็นเหตุให้ถนนของโจทก์ได้รับความเสียหาย ขอให้บังคับจำเลยทั้งสี่ร่วมกันชำระเงินค่าเสียหายจำนวน 100,000 บาท พร้อมดอกเบี้ยในอัตราร้อยละเจ็ดครึ่งต่อปี นับแต่วันฟ้องจนกว่าจะชำระเสร็จแก่โจทก์และห้ามจำเลยทั้งสี่ใช้ภารจำยอมที่ดินโฉนดเลขที่ 1901, 67421และ 131867 ในโฉนดที่ดินเลขที่ 160025
จำเลยทั้งสี่ให้การและฟ้องแย้งว่า จำเลยทั้งสี่ไม่ได้ทำละเมิดต่อโจทก์ เพราะผู้รับจ้างบรรทุกดินเข้าถมในที่ดินโฉนดเลขที่ 160024 ส่วนการถมดินในที่ดินโฉนดเลขที่ 160025 ผู้รับจ้างได้ใช้เส้นทางอื่นโดยมิได้ผ่านที่ดินของโจทก์ ถนนของโจทก์เสียหายตามสภาพเดิมอยู่แล้ว ค่าเสียหายในการซ่อมแซมถนนไม่เกิน 5,000 บาทโจทก์ได้รับค่าตอบแทนจากนางนันทา ธรรมโชโตเจ้าของเดิมผู้มีกรรมสิทธิ์ในที่ดินโฉนดเลขที่ 160025 แล้ว เมื่อเดือนธันวาคม2533 โจทก์นำหลักไปปักกีดขวางทางเข้าออกที่ดินโฉนดเลขที่ 160024ของจำเลยทั้งสี่ เป็นเหตุให้จำเลยทั้งสี่ได้รับความเสียหายไม่สามารถเข้าไปทำประโยชน์ในที่ดินได้ ขอให้ยกฟ้องและบังคับให้โจทก์ชำระเงินค่าเสียหายจำนวน 75,000 บาท พร้อมดอกเบี้ยในอัตราร้อยละเจ็ดครึ่งต่อปี นับแต่วันยื่นคำให้การและฟ้องแย้งจนกว่าจะชำระเสร็จแก่จำเลยทั้งสี่
โจทก์ให้การและแก้ไขคำให้การแก้ฟ้องแย้งว่า ผู้รับจ้างของจำเลยทั้งสี่ได้นำรถบรรทุกดินเข้าไปถมในที่ดินโฉนดเลขที่ 160025โดยใช้เส้นทางของโจทก์ซึ่งเป็นที่ดินโฉนดเลขที่ 1901, 67421 และ131867 โจทก์ไม่เคยรับค่าตอบแทนจากจำเลยทั้งสี่หรือผู้ใดทั้งสิ้นที่โจทก์นำหลักไปปักกีดขวางทางเข้าออกนั้นเป็นการปิดกั้นขวางที่ดินโฉนดเลขที่ 160025 ความเสียหายของจำเลยทั้งสี่จำนวน75,000 บาท นั้นสูงเกินไป ขอให้ยกฟ้องแย้ง
ศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำเลยทั้งสี่ร่วมกันชำระเงินจำนวน10,000 บาท พร้อมดอกเบี้ยในอัตราร้อยละเจ็ดครึ่งต่อปีนับวันฟ้อง(วันที่ 7 มิถุนายน 2534) จนกว่าจะชำระเสร็จแก่โจทก์ และห้ามจำเลยทั้งสี่ใช้ภารจำยอมที่ดินโฉนดเลขที่ 1901, 67421 และ 131867เพื่อที่ดินโฉนดเลขที่ 160025 ตำบลบางจาก อำเภอพระโขนงกรุงเทพมหานคร ให้ยกฟ้องแย้ง
จำเลย ทั้ง สี่ อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์ พิพากษายืน
จำเลย ทั้ง สี่ ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า “คดีนี้ทุนทรัพย์ที่พิพาทกันในชั้นฎีกาไม่เกินสองแสนบาทต้องห้ามฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริง ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 248 วรรคหนึ่ง จำเลยทั้งสี่ฎีกาศาลฎีกาสั่งรับฎีกาของจำเลยทั้งสี่เฉพาะปัญหาข้อกฎหมายว่าการที่โจทก์นำหลักปักกีดขวางทางเข้าออกที่ดินโฉนดเลขที่ 160024 ซึ่งเป็นสามยทรัพย์เป็นการละเมิดหรือไม่ และการเปลี่ยนแปลงในภารยทรัพย์หรือสามยทรัพย์ ทำให้เกิดภาระเพิ่มขึ้นแก่ภารยทรัพย์หรือไม่ในการวินิจฉัยข้อกฎหมายดังกล่าว ศาลฎีกาจำต้องถือข้อเท็จจริงตามที่ศาลอุทธรณ์ได้วินิจฉัยจากพยานหลักฐานในสำนวนตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 238 ประกอบด้วยมาตรา 247 ซึ่งศาลอุทธรณ์ฟังข้อเท็จจริงมาว่า โจทก์เป็นเจ้าของที่ดินโฉนดเลขที่ 1901,67421 และ 13867 จำเลยทั้งสี่เป็นเจ้าของที่ดินโฉนดเลขที่ 160024และ 160025 ที่ดินของโจทก์และจำเลยทั้งสี่อยู่ติดกันได้มีการจดทะเบียนที่ดินของโจทก์ทั้ง 3 แปลง ดังกล่าวเป็นภารจำยอมเพื่อที่ดินโฉนดเลขที่ 160024 โดยระบุว่าเป็นภารจำยอมเรื่องทางเดินทั้งแปลง การวางท่อระบายน้ำ ระบบประปา ไฟฟ้าและระบบสาธารณูปโภคอื่น ๆ จำเลยทั้งสี่ได้จ้างรถบรรทุกดินแล่นผ่านเข้าไปในที่ดินภารยทรัพย์เพื่อเข้าไปถมดินในที่ดินสามยทรัพย์โจทก์นำหลักไปปักขวางทางเข้าออกที่ดินสามยทรัพย์เพื่อกั้นมิให้รถบรรทุกดินแล่นผ่านเข้าไปถมที่ดินได้ เห็นว่าการจดทะเบียนภารจำยอมในที่ดินของโจทก์ดังกล่าวได้ระบุไว้ชัดแจ้งว่าเป็นภารจำยอมเรื่องทางเดินทั้งแปลง การวางท่อระบายน้ำ ระบบประปา ไฟฟ้า และระบบสาธารณูปโภคอื่น การที่จำเลยทั้งสี่จ้างรถบรรทุกดินเข้าถมที่ดินของจำเลยทั้งสี่ซึ่งมีจำนวนหลายไร่ ถือได้ว่าเป็นการใช้ทางภารจำยอมเกินควรกว่าปกติ ย่อมทำให้เกิดภาระเพิ่มขึ้นแก่ภารยทรัพย์จำเลยทั้งสี่ซึ่งเป็นเจ้าของสามยทรัพย์ไม่มีสิทธิที่จะทำได้การที่โจทก์นำหลักปักกีดขวางมิให้รถบรรทุกดินแล่นผ่านที่ภารยทรัพย์เข้าไปถมที่ดินของจำเลยทั้งสี่จึงไม่เป็นการละเมิดต่อจำเลยทั้งสี่ที่ศาลอุทธรณ์วินิจฉัยมานั้นชอบแล้ว ฎีกาของจำเลยทั้งสี่ฟังไม่ขึ้น”
พิพากษายืน

Share