แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
ผู้เสียหายในกรณีถูกเขาทำร้ายร่างกาย จะต้องนำสืบให้เห็นว่าค่ารักษาและค่ายาเป็นสิ่งจำเป็นที่จะต้องใช้จ่ายในการรักษา ซึ่งจะนับได้ว่าเป็นผลโดยตรงอันสืบเนื่องจากกรณีที่ถูกทำร้าย จึงจะเรียกร้องเอาค่ารักษาและค่ายานั้นจากผู้กระทำร้ายได้ ถ้าได้ความว่าบาดแผลของผู้เสียหายหายเพราะเหตุอื่น ไม่ใช่เพราะยาแล้ว ก็จะเอาค่ายามาคิดตั้งบัญชีเอาจากผู้ทำร้ายไม่ได้
ย่อยาว
จำเลยที่ 1 ถูกฟ้องฐานทำร้ายร่างกายโจทก์ ศาลพิพากษาลงโทษไปแล้ว โจทก์จึงมาฟ้องคดีนี้เรียกค่ารักษา 1,500 บาท ค่าสินไหมทดแทนที่ขาดประโยชน์ไม่ได้ประกอบอาชีพอีก 900 บาท จากจำเลยที่ 1 และจำเลยที่ 2 ในฐานะเป็นบิดาจำเลยที่ 1 ผู้เยาว์
ศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำเลยที่ 1 ใช้ค่าเสียหายและสินไหมทดแทนให้โจทก์ 300 บาท ยกฟ้องเฉพาะจำเลยที่ 2
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาเห็นว่า เหตุที่เกิดทำร้ายกัน ปรากฏว่าเพราะโจทก์เมาสุราอ้างว่าอยู่คงกะพันและท้าให้จำเลยที่ 1 ฟันจำเลยที่ 1 จึงฟัน และได้ความว่าเหตุเกิดที่นอกบ้านจำเลย จำเลยที่ 1 มีอายุ 15 ปีเศษ จำเลยที่ 2 พิสูจน์ได้ว่าได้ใช้ความระมัดระวังในการปกครองจำเลยที่ 1 ตามสมควรแก่หน้าที่ดูแล จำเลยที่ 2 จึงไม่ต้องรับผิดร่วมด้วย จึงพิพากษายืน