คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 899/2490

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

พระราชบัญญัติสัตว์พาหนะ มิได้บังคับไว้เด็ดขาดว่านายอำเภอหรือผู้ทำการแทนต้องเป็นผู้ตรวจสัตว์พาหนะ และทำตั๋วพิมพ์รูปพรรณด้วยตนเอง โดยเฉพาะ ให้ผู้อื่นทำการแทนไม่ได้
ปลัดอำเภอประจำตำบลเมื่อทางราชการสั่งย้ายมาประจำทำงานที่อำเภอแล้ว ก็มีหน้าที่ต้องทำงานอยู่ในบังคับบัญชาของนายอำเภอและเมื่อนายอำเภอใช้ให้ไปทำตั๋วพิมพ์รูปพรรณสัตว์พาหนะ และรับเงินค่าธรรมเนียม ก็ต้องถือว่าเป็นเจ้าพนักงานท่านใช้ให้มีหน้าที่เรียกเก็บ ส่วย, ภาษี, อากร ฯลฯ ตามกฎหมายลักษณะอาญา มาตรา 135

ย่อยาว

คดีได้ความว่า จำเลยเป็นปลัดอำเภอประจำตำบลพ่วงพรมกร แต่ขณะเกิดเหตุทางราชการสั่งให้ปลัดอำเภอประจำตำบลต่าง ๆ มาประจำทำงานอยู่ ณ ที่ว่าการอำเภอทั้งสิ้นแล้ว หาได้ประจำอยู่ที่ตามตำบลต่าง ๆ ไม่ จำเลยมาทำงานประจำอยู่ ณ ที่ว่าการอำเภอนาสารนายอำเภอนาสารได้สั่งให้จำเลยเป็นหัวหน้าออกไปทำตั๋วพิมพ์รูปพรรณโค กระบือ ให้แก่ราษฎรที่ตำบลลำพูน จำเลยออกไปทำให้แล้วเรียกเก็บเงินเกินไปกว่าอัตราค่าธรรมเนียมที่ควรเก็บ แล้วมิได้นำส่งคณะกรมการอำเภอ โจทก์จึงฟ้องขอให้ลงโทษตามกฎหมายลักษณะอาญา มาตรา 135, 71

ศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์พิพากษาลงโทษจำเลยตามมาตรา 135

จำเลยฎีกา ชั้นฎีกามีปัญหาเฉพาะข้อกฎหมายที่ว่าจำเลยเป็นเจ้าพนักงานมีหน้าที่ทำตั๋วพิมพ์รูปพรรณสัตว์ และเก็บเงินค่าตั๋วพิมพ์รูปพรรณหรือไม่

ศาลฎีกาเห็นว่า แม้พระราชบัญญัติปกครองท้องที่ ฉบับที่ 2 พ.ศ. 2486 มาตรา 69 วรรคต้น จะกำหนดหน้าที่ของปลัดอำเภอประจำตำบลไว้เมื่อทางการสั่งย้ายจำเลยมาประจำทำงานที่อำเภอแล้ว จำเลยก็มีหน้าที่ต้องทำงานอยู่ภายในบังคับบัญชาของนายอำเภอตามวรรคต้นแห่งมาตราเดียวกัน นายอำเภอมีอำนาจใช้ให้จำเลยตรวจทำตั๋วพิมพ์รูปพรรณและเรียกเงินค่าธรรมเนียมแทนได้ในเมื่อนายอำเภอได้เซ็นชื่อในตั๋วพิมพ์มอบให้จำเลยไป เพราะพระราชบัญญัติสัตว์พาหนะมิได้บังคับไว้โดยเด็ดขาดว่า นายอำเภอหรือผู้ทำการแทนต้องเป็นผู้ตรวจตัวสัตว์พาหนะและทำตั๋วพิมพ์รูปพรรณด้วยตนเอง โดยเฉพาะให้ผู้อื่นทำการแทนไม่ได้ จึงฟังว่าจำเลยเป็นเจ้าพนักงานท่านใช้ให้มีหน้าที่เรียกเก็บส่วย ภาษีอากร ฯลฯ ตามกฎหมายลักษณะอาญา มาตรา 135 จึงพิพากษายืน

Share