แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
โจทก์ไม่ได้ยื่นบัญชีระบุพยานก่อนวันสืบพยาน เพิ่งจะมายื่นคำร้องขอยื่นบัญชีระบุพยานเอาในวันนัดสืบพยานเมื่อปรากฏว่าโจทก์มิได้จงใจฝ่าฝืน หากเป็นด้วยความจำเป็นจริง ๆ แล้ว เพื่อประโยชน์แห่งความยุติธรรม ศาลย่อมอนุญาตให้โจทก์ระบุพยานได้ความคำร้องขอ
ย่อยาว
คดีนี้ โจทก์ฟ้องขอให้ขับไล่จำเลยออกจากที่นาอ้างว่าเป็นของโจทก์ จำเลยต่อสู้ว่า เป็นนาของจำเลย
ศาลชั้นต้นชี้สองสถาน กะประเด็นให้โจทก์นำสืบก่อน แต่โจทก์มิได้ยื่นบัญชีระบุพยานก่อนวันสืบพยานโจทก์โจทก์จึงได้ยื่นคำร้องขอยื่นบัญชีระบุพยาน โดยอ้างเหตุว่าเพราะตัวโจทก์เป็นคนมีอายุมาก (คืออายุ ๗๔ ปี) และมีความเจ็บป่วยเป็นประจำและป่วยอยู่ ๑๕ วันจึงหาย แต่ยังไม่แข็งแรง จึงมาติดต่อกับทนายไม่ได้ บ้านโจทก์อยู่ห่างทนายระยะทางเรือแจว ๖ ชั่วโมง จำเลยคัดค้านว่าศาลไม่ควรอนุญาต เพราะโจทก์มีทนายมาแต่ต้น น่าจะทราบเป็นอย่างดีอยู่แล้ว
ศาลชั้นต้นไม่อนุญาตให้โจทก์ยื่นระบุบัญชีพยานแล้วพิพากษายกฟ้อง
ศาลอุทธรณ์พิพากษายกคำพิพากษาศาลชั้นต้นให้ศาลชั้นต้นรับบัญชีระบุพยาน แล้วดำเนินการพิจารณาต่อไป
จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาเห็นว่า ตามเหตุผลที่โจทก์แถลงมาถึงความจำเป็น ซึ่งจำเลยมิได้มีข้อโต้แย้งเหตุผลที่โจทก์อ้างนั้นแต่อย่างไร ส่อแสดงให้เห็นว่า หาใช่เป็นโดยโจทก์จงใจฝ่าฝืนไม่ ศาลฎีกาจึงเห็นพ้องกับศาลอุทธรณ์ซึ่งเห็นว่าเพื่อประโยชน์แห่งความยุติธรรมตามมาตรา ๘๗(๒) จึงควรอนุญาตให้โจทก์ระบุพยานได้ตามคำร้องขอ
จึงพิพากษายืน