คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 172/2490

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

จำเลยรับซื้อของหนีภาษีไว้จากผู้ลักลอบพาของนั้นผ่านด่านศุลกากรเข้ามาในประเทศไทยไม่เสียภาษีนั้น ไม่เป็นผิดฐานหลีกเลี่ยง หรือพยายามหลีกเลี่ยงการเสียภาษี เพราะเป็นการสมรู้ช่วยเหลือภายหลังการกระทำผิด และไม่มีกฎหมายบัญญัติว่าเป็นผิด

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า จำเลยสมคบกันลักลอบซื้อปืนกลมือและกระสุนปืนจากผู้มีชื่อซึ่งได้ลอบนำเข้ามาจากต่างประเทศเข้ามาในประเทศไทยโดยยังไม่ได้เสียค่าภาษีและผ่านด่านศุลกากร ทั้งจำเลยรับซื้อไว้โดยรู้อยู่ว่าเป็นอาวุธหลักลอบนำเข้ามาโดยไม่เสียภาษี ทั้งนี้จำเลยมีเจตนามาที่จะช่วยเหลือหรือหลีกเลี่ยงการเสียภาษีอากร และจำเลยทั้งสองได้มีอาวุธปืนและกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาตจากเจ้าพนักงาน ขอให้ลงโทษตาม พ.ร.บ.อาวุธปืน และ พ.ร.บ.ศุลกากร
ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้คำพิพากษาศาลชั้นต้น ให้ปรับตาม พ.ร.บ. ศุลกากรเป็นเงิน ๓ เท่าของราคาของด้วย
จำเลยฎีกา,
ศาลฎีกาเห็นว่า ตาม พ.ร.บ.ศุลกากร พ.ศ. ๒๔๖๙ มาตรา ๑๗ แก้ไขเพิ่มเติมฉะบับที่ ๙ พ.ศ. ๒๔๘๒ มาตรา ๖ นั้น บัญญัติเป็นความผิดแต่ฉะเพาะการกระทำซึ่งเป็นการหลีกเลี่ยงเช่นนั้นโดยเจตนาจะฉ้อค่าภาษีรัฐบาล การที่จำเลยรับซื้อของไว้ แม้โดยรู้ว่าเป็นของหลีกเลี่ยงภาษี การกระทำของจำเลยจะเป็นแต่เพียงการช่วยเหลือภายหลังการกระทำผิด เป็นการสมรู้ภายหลังการกระทำผิด เมื่อไม่มีกฎหมายบัญญัติว่าเป็นผิดก็เอาโทษแก่จำเลยไม่ได้ พิพากษาแก้ให้ปรับจำเลยตามพระราชบัญญัติอาวุธปืนกะทงเดียว

Share